รวม 8 แอพแปลภาษา ที่ควรมีติดไว้ตอนเที่ยวต่างประเทศ
การท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตของหลายๆ คน แต่ปัญหาเรื่องภาษาก็เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การสื่อสารติดขัดได้ง่าย และอาจทำให้ทริปนั้นของคุณหมดสนุกไปเลย วันนี้เรามีแอพแปลภาษาดีๆ มาแนะนำ ที่จะช่วยให้คุณเที่ยวต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะไปประเทศไหน ภาษาอะไร ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
นอกจากแอพแปลภาษาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมเลยเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ คือการทำประกันการเดินทางต่างประเทศ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างการเดินทาง เช่น อุบัติเหตุ กระเป๋าหาย หรือเที่ยวบินล่าช้า อุ่นใจได้ว่ามีความคุ้มครองครอบคลุม ทำให้ทุกการเดินทางเป็นทริปในฝันที่คุณต้องการ
แนะนำแอพแปลภาษาที่ควรมี
วันนี้เรารวบรวม 8 แอพแปลภาษาที่น่าสนใจ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้การสื่อสารสะดวกขึ้นแล้ว ยังใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ชอบผจญภัยไปในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย ไม่ว่าจะพูดภาษาอะไร ก็สามารถเที่ยวได้อย่างเต็มที่ ไร้ความกังวลแน่นอน
1. Google Translate
ถ้าพูดถึงแอพแปลภาษา หลายคนต้องนึกถึง Google Translate เป็นตัวแรกแน่นอน ด้วยความสามารถที่ครอบคลุม สามารถแปลได้กว่า 100 ภาษาทั่วโลก รองรับทั้ง ข้อความ เสียง รูปภาพ และการสนทนาแบบเรียลไทม์ ใช้งานง่าย รวดเร็ว ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ใช้ได้ ทำให้ Google Translate ขึ้นแท่นเป็นแอพแปลภาษาสุดฮิตติดอันดับต้นๆ มาอย่างยาวนาน
นอกจากการแปลข้อความแล้ว Google Translate ยังมีฟีเจอร์แปลผ่านกล้องที่สามารถแปลป้ายบอกทาง เมนูอาหาร หรือข้อความต่างๆ ได้ทันทีแค่ส่องกล้องสแกน ไม่ต้องพิมพ์ข้อความให้เสียเวลา สะดวกเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับภาษาที่เราไม่คุ้นเคย
2. Google Lens
ต่อจาก Google Translate อีกหนึ่งแอพที่น่าสนใจจากค่ายเดียวกันคือ Google Lens ซึ่งมีความสามารถหลักในการค้นหาข้อมูลจากรูปภาพ เพียงแค่ถ่ายรูปหรือเลือกรูปจากอัลบั้มมาสแกน Google Lens ก็จะแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องขึ้นมาทันที ทั้งชื่อสถานที่ ร้านอาหาร สินค้า หรือแม้แต่แปลข้อความบนรูปภาพให้ด้วย
ในแง่ของการแปลภาษา เราสามารถใช้ Google Lens แปลป้ายร้านค้า ป้ายบอกทาง เมนูอาหาร หรือข้อความอื่นๆ จากภาษาต่างประเทศเป็นภาษาที่เราเข้าใจได้ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์ทีละตัวอักษรเหมือนแต่ก่อน นับเป็นความสะดวกสบายที่ได้มาพร้อมกับความถูกต้องของภาษาที่มากขึ้น
3. Microsoft Translator
แม้ Google Translate จะได้รับความนิยมสูงสุด แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นตัวเลือกเดียวสำหรับแอพแปลภาษา Microsoft Translator ก็มีดีไม่แพ้กัน ด้วยความสามารถที่รองรับกว่า 60 ภาษา แปลได้ทั้งข้อความ เสียง และรูปภาพ พร้อมระบบแปลแบบออฟไลน์สำหรับภาษายอดนิยม เช่น อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เป็นต้น
Microsoft Translator มีจุดเด่นตรงที่มีโหมดสนทนาแบบ Multi-person ที่ช่วยให้สนทนากับผู้คนหลายภาษาได้พร้อมกัน โดยแอพจะแปลบทสนทนาขณะนั้นสดๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งสะดวกมากสำหรับการประชุมงานหรือสัมมนากับชาวต่างชาติที่มาจากหลากหลายประเทศ
4. SayHi LLC
SayHi เป็นแอพแปลภาษาอีกตัวที่เน้นการสนทนาสดผ่านระบบเสียงเป็นหลัก ใช้งานง่ายเพียงกดปุ่มสีแดงค้างไว้ แล้วพูดประโยคที่ต้องการสื่อสารออกไป แอพจะแปลและอ่านออกเสียงประโยคนั้นเป็นภาษาปลายทางให้อัตโนมัติ และคู่สนทนาก็สามารถพูดโต้ตอบกลับมาได้ในเวลาเดียวกัน
ด้วยฟีเจอร์ Voice-to-Voice Translation ของ SayHi จะทำให้การสื่อสารเป็นเรื่องง่ายและสนุกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับการแปลภาษาผ่านข้อความและรูปภาพอีกด้วย เหมาะมากสำหรับนักเดินทางที่อยากจะเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชาวต่างชาติ โดยไม่ติดขัดปัญหาด้านภาษา
5. Yandex Translate
อีกหนึ่งแอพแปลภาษาฟรีจากรัสเซีย Yandex Translate มีความโดดเด่นตรงที่รองรับภาษาได้มากถึง 90 ภาษา ครอบคลุมทั้งข้อความ เสียง และการถ่ายภาพ แถมด้วยระบบแปลแบบออฟไลน์ ทำให้สามารถใช้งานได้แม้ในที่ที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดี แม้จะข้ามประเทศไปเมืองไหนก็ไม่ต้องกังวล
นอกจากนี้ Yandex Translate ยังมีระบบ Phrase-book ที่รวบรวมประโยคสำเร็จรูปหมวดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทักทาย การถามทาง การซื้อของ การสั่งอาหาร ไว้ได้อย่างครอบคลุม แค่เลือกประโยคที่ต้องการ แอพก็จะแปลและอ่านออกเสียงให้เราฟังในทันที ใช้งานง่ายสุดๆ
6. NAVER Dictionary
สำหรับใครที่ชื่นชอบวัฒนธรรมเกาหลีและอยากไปเที่ยวเกาหลีสักครั้ง การมีแอพดิกชันนารีเกาหลีอย่าง NAVER Dictionary ติดเครื่องไว้ จะช่วยให้การสื่อสารกับคนท้องถิ่นเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก เพราะมันไม่ได้เป็นแค่แอพแปลภาษาธรรมดา แต่เป็นดิกชันนารีออนไลน์ที่มีฐานข้อมูลคำศัพท์ สำนวน และประโยคภาษาเกาหลีที่ครอบคลุมทุกหัวข้อสนทนา
ไม่ว่าคุณจะมีพื้นฐานภาษาเกาหลีระดับไหน NAVER Dictionary ก็ช่วยให้คุณค้นหาคำศัพท์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมคำอ่านและคำแปลภาษาไทยหรืออังกฤษ อีกทั้งยังมีประโยคตัวอย่างสำหรับแต่ละคำ ทำให้สามารถนำไปใช้สนทนากับชาวเกาหลีได้ถูกต้องแน่นอน
7. TextGrabber
TextGrabber เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องเจอเอกสาร ป้ายประกาศ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ภาษาต่างประเทศบ่อยๆ เพราะแอพนี้สามารถแปลข้อความบนภาพได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำกัดความยาว ไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรก็แปลได้หมดในที่เดียว ประหยัดทั้งเวลาและพลังงานในการพิมพ์ข้อความด้วยตัวเอง
จุดเด่นของ TextGrabber คือระบบ Real-Time Recognition ที่สามารถอ่านข้อความจากกล้องแล้วแปลได้ทันที และระบบ Batch Mode ที่สามารถถ่ายภาพหลายๆ หน้ามาแปลพร้อมกันได้ในครั้งเดียว เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคู่ใจของนักเดินทาง ที่จะช่วยให้การอ่านป้ายในต่างประเทศไม่ยากอีกต่อไป
8. Longdo Dict
แอพสุดท้ายที่เราอยากแนะนำคือ Longdo Dictionary โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบไปประเทศจีนหรือติดต่อธุรกิจกับชาวจีน เพราะเป็นแอพดิกชันนารีออนไลน์ที่ครอบคลุมทั้งภาษาจีน ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ สามารถแปลและค้นหาคำศัพท์ได้อย่างหลากหลาย รวมถึงมีระบบพจนานุกรมออกเสียงคำศัพท์ให้ฟัง ช่วยให้เรียนรู้ภาษาจีนได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากการแปลคำศัพท์แล้ว Longdo Dictionary ยังมีส่วนของประโยคตัวอย่างในหลากหลายสถานการณ์ เช่น การทักทาย การเดินทาง การสั่งอาหาร การจับจ่ายซื้อของ และอื่นๆ อีกมากมาย เพียงแค่ค้นหาสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถสื่อสารกับชาวจีนได้อย่างเข้าใจและราบรื่น
สรุปบทความ
จะเห็นได้ว่าในยุคปัจจุบัน การท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว เพราะเรามีตัวช่วยอย่างแอพแปลภาษาต่างๆ ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างการเดินทาง แต่อย่างไรก็ตาม การวางแผนการท่องเที่ยวที่ดี ไม่ได้มีแค่การเตรียมแอพแปลภาษาเท่านั้น แต่ยังต้องเตรียมพร้อมทุกด้านรวมถึงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินด้วย ดังนั้นอย่าลืมทำประกันการเดินทางต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยคุ้มครองคุณจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง เริ่มต้นทำประกันได้ง่ายๆ ผ่าน TIPINSURE ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันท่องเที่ยวชั้นนำของไทย