ยางรถบวม เกิดจากอะไร ขับต่อได้ไหม เคลมประกันชั้น 1 ได้หรือเปล่า
05 พฤศจิกายน 2024
ผู้ชม: 882 คน

ยางรถบวม เกิดจากอะไร ขับต่อจะอันตรายไหม

ยางรถเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักของรถยนต์และสัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง ดังนั้น สภาพของยางรถจึงมีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในการขับขี่ หนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยคือ ยางรถบวม ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่เจ้าของรถยนต์ไม่ควรมองข้าม ในบทความนี้ TIPINSURE จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของยางรถบวม อาการที่สังเกตได้ และแนวทางการแก้ไข รวมถึงประเด็นเรื่องการเคลมประกัน ครบจบในบทความเดียว

 

ยางรถบวม เกิดจากอะไรได้บ้าง

ยางรถบวมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุอาจส่งผลต่อความรุนแรงของปัญหาและวิธีการแก้ไขที่แตกต่างกัน ดังนี้

ยางเสื่อมสภาพ

ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานจำกัด แม้ว่าจะยังมีดอกยางเหลืออยู่ก็ตาม เมื่อยางมีอายุการใช้งานมากขึ้น โครงสร้างภายในของยางจะเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดการแยกตัวของชั้นยาง (Delamination) ซึ่งอาจนำไปสู่การบวมของยางได้ โดยทั่วไป ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานประมาณ 5-6 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพการใช้งาน การเก็บรักษา และสภาพแวดล้อม

ขับกระแทกอย่างรุนแรง

การขับรถกระแทกกับสิ่งกีดขวางอย่างรุนแรง เช่น หลุมบนถนน ขอบฟุตบาท หรือวัตถุแข็งอื่นๆ สามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างภายในของยางได้ แม้ว่าภายนอกอาจไม่เห็นรอยฉีกขาด แต่เส้นใยภายในยางอาจได้รับความเสียหาย ทำให้เกิดจุดอ่อนและนำไปสู่การบวมของยางในที่สุด

ปะยางมาผิดวิธี

การปะยางที่ไม่ถูกวิธีหรือการใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสมในการซ่อมแซมยาง อาจทำให้เกิดปัญหายางบวมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการซ่อมแซมนั้นไม่สามารถรักษาความแข็งแรงของโครงสร้างยางได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง จุดที่ซ่อมแซมอาจเกิดการอ่อนตัวและบวมขึ้นได้อีก

บรรทุกน้ำหนักมากไป

การบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่ยางรถสามารถรองรับได้ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยางรถบวม เพราะยางแต่ละเส้นมีขีดจำกัดในการรับน้ำหนักแตกต่างกัน การบรรทุกน้ำหนักมากเกินไปจะทำให้เกิดแรงกดดันมากเกินไปบนโครงสร้างของยาง ส่งผลให้ยางเกิดการบวมหรือเสียรูปทรง

มีน้ำและฝุ่นเข้าไปในยาง

ในบางกรณี น้ำและฝุ่นอาจเล็ดลอดเข้าไปในโครงสร้างภายในของยางได้ โดยเฉพาะหากยางมีรอยรั่วเล็กๆ หรือมีการซ่อมแซมที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อน้ำและฝุ่นสะสมอยู่ภายในเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนหรือทำลายโครงสร้างภายในของยาง ส่งผลให้ยางเกิดการบวมในที่สุด

 

เมื่อยางรถบวม จะมีอาการอย่างไร

การสังเกตอาการของยางรถบวมเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ควรให้ความใส่ใจ เพราะสามารถช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ อาการของยางรถบวมที่สังเกตได้มีดังนี้

  1. สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนที่สุดคือ จะเห็นส่วนที่นูนหรือบวมออกมาจากผิวยางปกติ ซึ่งอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา
  2. เมื่อขับรถ อาจรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่ผิดปกติ โดยเฉพาะเมื่อขับที่ความเร็วสูง
  3. หากยางบวมเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง อาจทำให้รถเอียงหรือดึงไปทางด้านนั้นขณะขับ
  4. อาจได้ยินเสียงดังผิดปกติจากยางขณะขับรถ เช่น เสียงตุบๆ หรือเสียงลากยาง
  5. หากสังเกตดอกยางอย่างละเอียด อาจพบว่ามีการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการบวม

หากสังเกตพบอาการเหล่านี้ ควรนำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการหรือร้านยางโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยางที่มีปัญหา

 

ยางรถบวม ขับต่อได้ไหม

คำตอบที่ชัดเจนคือ ไม่ควรขับต่อและควรเปลี่ยนยางใหม่ทันทีเพราะมีความอันตรายสูง การขับรถที่ใช้ยางบวมเป็นการเสี่ยงอันตรายอย่างมาก เนื่องจาก

  1. ยางที่บวมมีโครงสร้างที่อ่อนแอลง ทำให้มีโอกาสสูงที่จะระเบิดขณะขับรถ โดยเฉพาะเมื่อขับด้วยความเร็วสูงหรือบนถนนที่มีอุณหภูมิสูง
  2. ยางที่บวมจะมีพื้นผิวสัมผัสกับถนนที่ผิดปกติ ทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง ส่งผลให้การควบคุมรถทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพถนนที่เปียกหรือลื่น
  3. การใช้ยางที่บวมต่อไปอาจส่งผลกระทบต่อระบบช่วงล่างของรถ เนื่องจากน้ำหนักรถจะกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ
  4. ยางที่บวมจะทำให้แรงเสียดทานระหว่างยางกับพื้นถนนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติ

ดังนั้น เมื่อพบว่ายางรถบวม ควรหยุดใช้งานทันทีและเปลี่ยนเป็นยางใหม่ หากไม่สามารถเปลี่ยนยางได้ในทันที ควรใช้ยางอะไหล่แทนชั่วคราวและนำรถเข้าศูนย์บริการหรือร้านยางโดยเร็วที่สุด

 

ประกันชั้น 1 เคลมยางได้ไหม

คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ประกันชั้น 1 เคลมยางได้ไหม คำตอบคือ สามารถเคลมได้ในกรณีที่เกิดจากอุบัติเหตุในการขับขี่ แต่กรณีที่ยางเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานจะไม่สามารถเคลมได้
ในกรณีที่ยางรถบวมเนื่องจากอุบัติเหตุ เช่น การขับกระแทกหลุมบนถนนอย่างรุนแรง หรือชนกับวัตถุแข็งที่ทำให้ยางได้รับความเสียหาย ประกันภัยชั้น 1 มักจะคุ้มครองความเสียหายนี้ โดยผู้เอาประกันสามารถนำรถเข้าศูนย์ซ่อมที่คู่สัญญากับบริษัทประกันเพื่อดำเนินการเคลมได้

อย่างไรก็ตาม หากยางรถบวมเนื่องจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือการใช้งานผิดวิธี เช่น การบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือการปะยางที่ไม่ได้มาตรฐาน กรณีเหล่านี้จะไม่สามารถเคลมประกันได้ เนื่องจากถือเป็นการสึกหรอตามปกติของยางรถยนต์

ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์ ประกันอุบัติเหตุ ส่วนบุคคลหรือประกันภัยรถยนต์ของตนให้ละเอียด และหากมีข้อสงสัยควรสอบถามกับตัวแทนประกันหรือบริษัทประกันโดยตรง เพื่อให้เข้าใจขอบเขตความคุ้มครองอย่างชัดเจน

 

สรุปบทความ

ยางรถบวมเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจนำไปสู่อันตรายร้ายแรงได้ สาเหตุของยางรถบวมมีหลายประการ ตั้งแต่ยางเสื่อมสภาพ การขับกระแทกอย่างรุนแรง การปะยางผิดวิธี การบรรทุกน้ำหนัก ไปจนถึงการมีน้ำและฝุ่นเข้าไปในยาง เมื่อพบว่ายางรถบวม สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องไม่ขับรถต่อ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่ยางจะระเบิดขณะขับ ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ แนะนำให้รีบเปลี่ยนยางใหม่ทันที หรือใช้ยางอะไหล่ชั่วคราวและนำรถเข้าศูนย์บริการโดยเร็วที่สุด

ในเรื่องของการเคลมประกัน ประกันชั้น 1 สามารถเคลมค่าเสียหายของยางได้ในกรณีที่เกิดจากอุบัติเหตุในการขับขี่ แต่ไม่ครอบคลุมกรณีที่ยางเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรศึกษาเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้ละเอียดและปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริษัทประกันอย่างเคร่งครัด สุดท้ายนี้ การมีประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม เช่น ประกันภัยชั้น 1 จาก ทิพยประกันภัย จะช่วยให้ผู้ขับขี่มีความอุ่นใจมากขึ้นในการใช้รถใช้ถนน แต่ก็ไม่ควรละเลยการดูแลรักษารถยนต์และยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่

#Tag: