ประกัน ชั้น 3 ดีไหม เหมาะสมกับรถยนต์ประเภทใดบ้าง
หลายคนอาจมองว่า ประกัน ชั้น 3 หรือ ประกัน ประเภท 3 คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองได้น้อยที่สุดในบรรดา ประกันรถยนต์ ทั้งหมด แต่รู้ไหมว่าการทำ ประกัน ชั้น 3 นั้นสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ประกัน ประเภท 3 คือ ประกันรถยนต์ที่จะช่วยชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สิน ถึงแม้จะเน้นดูแลคู่กรณีเป็นหลัก แต่ ประกัน ชั้น 3 ก็ยังคงดูแลในส่วนของค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงเงินชดเชยกรณีสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือ เสียชีวิต
ประกัน ชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณีอย่างเดียวหรือเปล่า
สำหรับ ประกัน ชั้น 3 หรือ ประกัน ประเภท 3 คือ ประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองได้จำกัดกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่น ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้ว ประกัน ชั้น 3 จะเน้นดูแลคู่กรณี ทั้งค่ารักษาพยาบาล และ ค่าซ่อมรถ หรือ พูดง่าย ๆ ก็คือ ซ่อมเขาแต่ไม่ซ่อมเรานั่นเอง หากรถยนต์ผู้ทำประกันเกิดความเสียหาย ก็ต้องออกค่าซ่อมรถเอง ประกัน ชั้น 3 ไม่รับเคลมนะจ๊ะ นอกจากนี้ ประกัน ชั้น 3 ยังไม่คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้รถ น้ำท่วมรถ หรือหากให้สรุปก็คือ ประกัน ประเภท 3 คือ ประกันรถยนต์ที่ไม่คุ้มครองความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ของผู้ทำประกัน แต่จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ของคู่กรณีเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ใช่ว่า ประกัน ชั้น 3 จะดูแลแต่คู่กรณีไปเสียหมด เพราะ ประกัน ประเภท 3 คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้วย ไม่ว่าจะเป็น ค่ารักษาพยาบาล หรือ ค่าสินไหมทดแทน กรณีสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และ เสียชีวิต
จึงสรุปได้ว่า ประกัน ชั้น 3 ไม่ได้คุ้มครองเฉพาะคู่กรณีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถึงแม้ว่า ประกัน ชั้น 3 จะไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถของผู้ทำประกันก็ตาม แต่ ประกัน ประเภท 3 คือ ประกันรถยนต์ ที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ของประกัน ชั้น 3
ประกัน ชั้น 3 เหมาะสมกับรถยนต์ประเภทใดบ้าง
ประกัน ชั้น 3 หรือ ประกัน ประเภท 3 คือ ประกันรถยนต์ที่มีราคาถูกกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดงบในการทำประกันรถยนต์ นอกจากนี้ ประกันรถยนต์ชั้น 3 ยังเหมาะกับรถยนต์ที่มีรูปแบบการใช้งานดังต่อไปนี้อีกด้วย
- รถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน
สำหรับใครที่นาน ๆ ได้ขับรถออกจากบ้านที หรือ ไม่ค่อยได้ใช้รถคันนี้บ่อยสักเท่าไรนัก ถ้าจะปล่อยให้รถไม่มีประกันเลย ก็น่าเสียดาย เพราะเราไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าอะไรได้เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อย แต่ใครจะไปรู้ได้ หากวันใดวันหนึ่งที่เราขับรถคันนั้นไปแล้วเกิดแจ็คพ็อต รถชนขึ้นมา ถ้าไม่มีประกันรถยนต์ ก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเองทั้งหมด ยิ่งถ้าเจอรถของคู่กรณีที่แพง ๆ ด้วยแล้ว บอกเลยว่า จ่ายหนักแน่ ๆ แต่ถ้าเราทำ ประกัน ชั้น 3 ไว้ ก็ไม่ต้องกังวลในจุด ๆ นี้ เพราะ ประกัน ประเภท 3 คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สินของคู่กรณี ถึงจะไม่ค่อยได้ขับรถบ่อย ๆ แต่มี ประกัน ชั้น 3 ไว้ก็ดีกว่าไม่มีนะ
- รถเก่า รถมือสอง หรือ รถที่มีอายุเกิน 10 ปีขึ้นไป
เช่นเดียวกันกับ รถเก่า รถมือสอง หรือ รถที่มีอายุเกิน 10 ปีขึ้นไป บางคนคิดว่า ใช้รถมานานขนาดนี้แล้ว ขับรถก็คล่องแคล่ว เชี่ยวชาญสุด ๆ แถมโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุก็แทบไม่ค่อยมี แล้วจะทำ ประกัน ชั้น 3 ไปทำไม แต่อย่าลืมนะว่า อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งการมี ประกัน ประเภท 3 คือ การสร้างความอุ่นใจที่อาจจะได้รับในอนาคต แน่นอนแหละว่าไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่การทำ ประกัน ชั้น 3 ก็เป็นการการันตีได้ว่า หากเกิดความเสียหายขึ้นมา นอกจากคู่กรณีจะได้รับความคุ้มครองแล้ว เราก็ยังคงได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์อยู่เช่นกัน แม้จะได้ไม่เท่าประกันชั้นอื่น และไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถเราก็ตาม แต่อย่างน้อย ประกัน ชั้น 3 ก็ยังคงชดเชยค่ารักษาพยาบาล ทั้งของเราและคู่กรณี ดีกว่าต้องมาควักกระเป๋าจ่ายเองทั้งหมดนั่นเอง
เพียงเท่านี้ก็คงได้ทราบกันไปแล้วว่า ประกัน ชั้น 3 นั้นดีหรือไม่อย่างไร และเหมาะสมกับรถยนต์ประเภทใดบ้าง หากใครที่เคยมองข้ามความสำคัญของ ประกัน ชั้น 3 ก็ขอให้คิดใหม่ให้ดี ๆ เพราะการมี ประกัน ประเภท 3 คือสิ่งที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี โดยสามารถเข้าเว็บไซต์ www.TIPINSURE.com เพื่อ ซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ ได้ง่าย ๆ ในราคาสบายกระเป๋า