ไขข้อข้องใจประกันชั้น 1 เคลมสีรอบคันได้หรือไม่
เชื่อว่าเจ้าของรถหลาย ๆ คนคงเคยเจอปัญหา บางครั้งรถของเราก็จอดอยู่ดี ๆ กลับมาดูอีกที ทำไมมีรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ รอยถาก รอยถลอก ซะอย่างนั้น จนบางครั้งสีรถสวย ๆ ของเราก็หลุดลอกออก หรือไม่ก็เป็นรอยเหมือนถูกถอยมาชนเบา ๆ ใครมาชนก็ไม่รู้ บางทีเราเองก็ถอยรถไปชนรั้วบ้าน ชนกระถางต้นไม้ พอปล่อยไปนาน ๆ ก็เกิดเป็นรอย จุดนั้นบ้างจุดนี้บ้าง กลายเป็นรอยขีดข่วนรอบคันรถ แต่พอนึกขึ้นได้ว่า รถของเราทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ เอาไปเคลมสีรอบคันให้รถกลับมาสวยเหมือนใหม่เลยดีกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วสามารถเคลมได้หรือไม่? ประกันคุ้มครองในส่วนนี้หรือเปล่า? ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติม? วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันกับ ทําสีรอบคัน ประกันชั้น 1 เคลมได้หรือไม่
เคลมสีรอบคัน ประกันชั้น 1 เคลมได้จริงหรือไม่ ?
ตามเงื่อนไขหลัก ๆ ของประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้น จะให้ความคุ้มครองรถยนต์ในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อตัวรถยนต์ที่ทำประกันเอาไว้ แต่ต้องเกิดจากอุบัติเหตุ ทั้งที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถยนต์ไปเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้า ถอยรถไปชนรั้วบ้าน หรือต้นไม้ แต่หากเป็นการทำสีรอบคัน จากความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง หรือร่องรอยที่เสื่อมสภาพจากการใช้งาน จากการดูแลรักษารถตามปกติ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะไม่คุ้มครองในกรณีดังกล่าว โดยหากมีร่องรอยความเสียหายจากอุบัติเหตุ หลาย ๆ เหตุการณ์ จนเกิดร่องรอย รอยแผล รอยถลอกรอบคัน รวม ๆ กัน ก็สามารถเคลมสีรอบคันได้
อยากเคลมสีรอบคัน ประกันชั้น 1 ต้องทำอย่างไร
อย่างที่บอกไปแล้วว่าการเคลมประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เพื่อทำสีรอบคันโดยตรงนั้น ไม่สามารถทำได้ แต่หากร่องรอยเกิดขึ้นเพราะความเสียหายจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่มีก็ตาม แล้วต้องการเคลมสีรอบคัน โดยการทำสีรถใหม่ สามารถทำได้ เพราะจุดประสงค์ในการทำประกันภัยรถยนต์ ก็เพื่อช่วยในการรับผิดชอบในกรณีเกิดอุบัติเหตุ เว้นแต่ว่าทำสีรถใหม่ที่เปลี่ยนไปจากสีเดิม ทำใหม่เพื่อความสวยงาม หากมีส่วนต่างเพิ่มขึ้น ผู้ทำประกันจะต้องเป็นคนจ่ายค่าส่วนต่างนั้นเอง โดยทางประกันภัยจะมีเงื่อนไข ในการเก็บ “ค่าเสียหายส่วนแรก” หรือค่า Excess อีกด้วย
เคลมสด-เคลมแห้ง-ค่า Excess ประกันรถยนต์ชั้น 1 คืออะไร
ทุกครั้งเวลาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เฉี่ยวชนอะไรขึ้นมา เราจะโทรเรียกประกันมาตรวจสภาพรถยนต์ และร่องรอยต่าง ๆ ก่อนที่จะมีการเคลมประกัน แต่รู้หรือไม่ว่าการเคลมประกันนั้น มีด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้
-
เคลมสด
พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์กับรถยนต์ โดยมีคู่กรณีอยู่ด้วย แล้วได้ทำการติดต่อเจ้าหน้าที่ประกัน ให้ไปตรวจสอบ และทำเรื่องเคลมประกันในที่เกิดเหตุทันทีนั่นเอง ในกรณีอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บ อาจต้องมีการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ โดยใช้ใบขับขี่และกรมธรรม์ประกันภัยประกอบการแจ้งความ
-
เคลมแห้ง
จะต่างจากเคลมสด ตรงที่เป็นการเคลมหลังจากอุบัติเหตุได้ผ่านไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดความเสียหายไม่มาก หรือในกรณีคู่กรณีไม่ใช่รถยนต์ด้วยกัน เช่น ขับชนเสาไฟ ป้ายข้างทางราวสะพาน ต้นไม้ ฯลฯ จนตัวรถเป็นรอยบุบ หรือเกิดรอยขีดข่วนเสียหาย เป็นเหตุที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการขับขี่โดยตรง รวมถึงไม่มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ บางกรณีที่เกิดปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ กับรถยนต์ ผู้ทำประกันอาจรวบรวมร่องรอยต่าง ๆ เอาไว้ แล้วค่อยแจ้งเคลมทีเดียวพร้อม ๆ กัน หรือเคลมรอบคัน เพื่อทำสีรถใหม่ทั้งคันก็ได้ แต่กรณีเคลมแห้งผู้ทำประกันต้องจ่าย “ค่าเสียหายส่วนแรก” หรือค่า Excess 1,000 บาททุกครั้ง
ค่า Excess
ในกรณีผู้ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่สามารถระบุคู่กรณี รวมถึงไม่สามารถบอกลักษณะเหตุการณ์ วันเวลา สถานที่เกิดเหตุได้ ผู้ทำประกันต้องรับผิดชอบจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก (ค่า Excess) 1,000 บาทต่อเหตุการณ์ หรือเหมารวมความเสียหายรอบคัน แล้วแต่เงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ทั้งนี้ ตามกฎหมายบังคับใช้เพื่อป้องกันกรณีที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง การเคลมแห้ง จึงต้องเสียค่า Excess ทุกครั้ง
ก่อนทำประกันรถยนต์ ควรศึกษารายละเอียดการคุ้มครองให้ชัดเจน โดยเฉพาะเงื่อนไขการเคลมประกันต่าง ๆ ว่า รวมไม่รวมส่วนไหนบ้าง เช่น เคลมสีรอบคัน ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง เคลมไม่ได้กรณีไหนบ้าง เพื่อจะได้จ่ายเงินได้คุ้มค่าจริง ๆ หากใครกำลังมองหา ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันชั้น 2 และประกันชั้น 3 แนะนำให้เข้าไปดูได้ที่ Tipinsure.com คลิก ที่ครอบคลุมรอบด้าน เป็นทางเลือกใหม่ในการทำประกันรถยนต์