ค้นหา ตรอ. เช็คสภาพรถใกล้ฉัน ราคาประหยัด
สิ่งสำคัญที่สุดในการขับขี่ยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซต์ รถยนต์ หรือรถขนส่งต่าง ๆ นั่นก็คือ การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ และความพร้อมในการขับขี่อยู่เสมอ ถ้าเป็นมอเตอร์ไซต์ก็อาจจะมีการเช็กว่ายางอ่อนมั๊ย ยางรั่วหรือไม่ ส่วนรถยนต์อาจจะต้องสังเกตอาการ ตอนที่เริ่มสตาร์ทว่ามีสัญญาณเตือนอะไรแสดงมั๊ย ซึ่งถ้าพบความผิดปกติเหล่านี้ สามารถไปตรวจสอบสภาพรถได้ที่ ตรอ. พร้อมต่อภาษีรถยนต์ได้เลย โดยค้นหาตำแหน่งในกูเกิ้ลง่าย ๆ ด้วยการพิมพ์เช็คสภาพรถใกล้ฉัน ซึ่งจะแสดง ตรอ. ใกล้คุณ ขึ้นมาเพียบ
ทำไมต้อง เช็ค สภาพ รถ ใกล้ ฉัน กับ ตรอ.
หากคุณต้องการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ไม่ว่าจะเป็นรถเก่าหรือรถใหม่ก็ตาม สามารถมาต่อภาษีได้ที่ ตรอ. ทั่วประเทศ แต่ถ้าเป็นรถเก่าที่มีอายุมากกว่า 5 ปี (สำหรับมอเตอร์ไซต์) และมากกว่า 7 ปี (สำหรับรถยนต์) อาจจำเป็นต้องตรวจสภาพรถก่อน ซึ่งการ เช็ค สภาพ รถ ใกล้ ฉัน กับ ตรอ. เป็นอะไรที่สะดวกมากที่สุด เพราะสถานที่ยิ่งใกล้ยิ่งประหยัดเวลา และสะดวกในการเดินทางแน่นอน
ซึ่งคำว่า “ตรอ.” มีความหมายว่า สถานที่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ในการตรวจสภาพรถยนต์ ทีดำเนินการโดยเอกชน ดังนั้นก่อนที่คุณจะไปทำ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 , ชั้น 2, ชั้น 2+, ชั้น 3 หรือชั้น 3+ ควรมาต่อภาษีหรือตรวจเช็คสภาพรถเสียก่อน เพื่อป้องกันความเสี่ยง จากการถูกจับดำเนินคดีนั่นเอง เพราะถ้ารถของคุณ ไม่มีแผ่นป้ายวงกลมภาษีติดหน้ารถ ก็อาจถูกตำรวจเรียกไปเสียค่าปรับได้ง่าย ๆ
วิธีค้นหาศูนย์ ตรอ. แบบง่าย ๆ ทำอย่างไร ไปดูกันเลย
1. อุปกรณ์ในการสืบค้น ได้แก่ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือมือถือ ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต
2. เข้า Google.com แล้วทำการค้นหา ตรอ. เพื่อตรวจสภาพรถ โดยพิมพ์คำว่า เช็ค สภาพ รถ ใกล้ ฉัน แล้วกดค้นหาฃ
3. หน้าจอจะแสดง สถานบริการตรวจสภาพรถยนต์ (ตรอ.) ขึ้นมา โดยจะบอกชื่อสถานที่, ระยะทาง, คะแนนจากการรีวิว, เว็บไซต์, เวลาเปิด-ปิด และเส้นทาง
4. คลิกเลือก ตรอ. ที่ต้องการ จากนั้นก็สามารถนำรถไปตรวจสภาพรถ หรือต่อภาษีได้เลย
สำหรับการเตรียมเอกสารที่จะนำไปต่อภาษี (หรือต่อ ประกันรถยนต์ ควรมีเล่มทะเบียนรถ ที่เป็นตัวจริงหรือสำเนาก็ได้ โดยสีเขียวจะเป็นเล่มของมอเตอร์ไซต์ และสีน้ำเงินเป็นของรถยนต์ พร้อมนำรถที่ต้องการตรวจสภาพไปด้วย หากเข้าเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด
รถประเภทไหน ที่เข้าข่ายต้องต่อภาษีประจำปี
หลังจากที่เราทราบตำแหน่งของ ตรอ. จากการ เช็ค สภาพ รถ ใกล้ ฉัน กันแล้ว สำหรับรถใหม่น่าจะทราบกันดีแล้วว่า ถ้ามีอายุยังไม่เข้าเกณฑ์ สามารถนำเอกสารมาต่อภาษี หรือต่อ ประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้นอื่น ๆ ได้เลย แต่ถ้ารถเริ่มมีอายุมากขึ้น ต้องกี่ปีจึงควรนำรถไปเช็กสภาพด้วย ดังนั้นเราจึงสรุปประเภทรถ ที่ต้องตรวจสภาพ และค่าบริการให้แล้ว ดังนี้
ประเภทที่ 1: รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป (ค่าบริการ 60 บาท)
ประเภทที่ 2: รถยนต์นั่งส่วนบุคคล (ไม่เกิน 7 ที่นั่ง) ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป (ค่าบริการ 160 บาท)
ประเภทที่ 3: รถยนต์นั่งส่วนบุคคล (เกิน 7 ที่นั่ง) ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป (ค่าบริการ 160 บาท)
ประเภทที่ 4: รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป (ค่าบริการ 250 บาท)
ทั้งนี้อายุรถจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียน คล้าย ๆ กับการนับเวลาของ ประกันรถยนต์ นับจนครบหนึ่งปี แล้วค่อยมาต่อภาษี หรือจะต่อล่วงหน้าก่อนหมดอายุ 3 เดือนก็ได้ และถ้าเกิดกรณีตรวจสภาพไม่ผ่านในครั้งแรก เจ้าหน้าที่จะแจ้งว่าไม่ผ่านในส่วนไหน แล้วให้คุณกลับไปแก้ไข จากนั้นให้กลับมาใหม่ภายใน 15 วัน และจ่ายค่ายบริการเพียงครึ่งเดียว แต่ถ้าเป็นรถขาดการต่อเกิน 1 ปี ต้องติดต่อที่กรมการขนส่งทางบก (ทั่วประเทศ) เท่านั้น เพื่อตรวจสภาพรถนั่นเอง
สุดท้ายไม่ว่าคุณจะทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้นไหน ๆ เมื่ออายุรถเริ่มมากขึ้น ก็คงหนีไม่พ้น การตรวจสภาพรถอย่างแน่นอน ซึ่งเรามั่นใจว่า ตรอ. สะดวกกว่าไปกรมการขนส่งฯ อย่างแน่นอน ซึ่งการ เช็ค สภาพ รถ ใกล้ ฉัน จะทำให้คุณประหยัดทั้งเงินและเวลาที่ต้องเดินทาง เพราะส่วนใหญ่ราคาจะเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว และถ้าใครต้องการประกันภัยรถยนต์ดี ๆ เราก็ไม่อยากให้พลาด กับประกันรถยนต์จากทิพยประกันภัย เพียงคลิกลิงก์ TIPINSURE.com ก็สามารถเลือกประกันได้อย่างครบครัน และคุ้มราคาสุด ๆ