ขั้นตอนเคลมประกันภัย ของ Tipinsure มีอะไรบ้าง
23 พฤษภาคม 2023
ผู้ชม: 16683 คน

ขั้นตอนเคลมประกันภัยของ Tipinsure

 

การทำประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งที่เจ้าของรถต้องมีการทำเอาไว้อยู่แล้ว เพื่อช่วยคุ้มครองเรื่องค่าใช้จ่ายหากเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถ หรือเกิดการบาดเจ็บทางร่างกายจากการประสบอุบัติเหตุประกันภัยก็จะคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลด้วย และไม่ควรปล่อยให้ขาดต่อประกันรถยนต์ด้วย ซึ่งการเคลมประกันภัยจะเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทประกัน ในบทความนี้เราจึงจะมาบอกวิธีเคลมประกันภัยกับ Tipinsure ต้องทำอย่างไรบ้าง

 

การเคลมประกันภัยคืออะไร

การเคลมประกันคือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขณะใช้รถอยู่ แล้วมีความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือทางด้านร่างกาย คนที่มีประกันรถยนต์จะใช้กรมธรรม์ที่ถืออยู่มาใช้เคลมและช่วยเหลือค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทั้งค่าซ่อม และค่ารักษาพยาบาล และคุ้มครองไปถึงคู่กรณีด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ที่เลือกทำ เพราะเงื่อนไขนั้นมีความแตกต่างกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น1 ชั้น 2 หรือ ชั้น3

การเคลมประกันภัยรถยนต์มีกี่แบบ

การเคลมประกันนั้นแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้

 

1. การเคลมสด คือ การเคลมรถยนต์ในที่เกิดเหตุ ซึ่งจะมีพนักงานของบริษัทประกันออกไปตรวจสอบทันที ณ ที่เกิดเหตุ  ซึ่งจะแบ่งเป็น การเคลมสดแบบมีคู่กรณี และ เคลมสดแบบมีคู่กรณี

  • เคลมสดแบบมีคู่กรณี คือ กรณีที่รถชนแบบมีคู่กรณี ควรต้องมีการขอข้อมูลชื่อ เบอร์โทรของคู่กรณีไว้ด้วย และพนักงานจากบริษัทประกันจะเป็นคนพิจารณาว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด ซึ่งฝ่ายผิดอาจจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกหรือ Deductible ให้คู่กรณีก่อน ตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับบริษัทประกัน
  • เคลมสดแบบไม่มีคู่กรณี คือ กรณีที่รถชนเข้ากับสิ่งของจนเกิดความเสียหาย เช่น ชนเสาไฟฟ้า โดยกรณีนี้ผู้ถือประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ก่อนเสมอ ตามที่ได้มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันประกัน

2. การเคลมแบบแห้ง คือ การเคลมรถหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดไปแล้ว ซึ่งไม่ควรปล่อยให้เกิน 2-3 วัน การเคลมแห้งมักเกิดในกรณีที่ตัวรถได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย เช่น การเฉี่ยวชน และผู้ถือประกันภัยต้องระบุรายละเอียดเหตุการณ์ให้ชัดเจน ว่าเกิดที่ไหน เกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร ชนกับอะไร แล้วทำการแจ้งเคลมกับบริษัทประกันด้วยตัวเอง ซึ่งความคุ้มครองนี้จะมีเฉพาะการทำประกันชั้น 1 เท่านั้น โดยจะเก็บรายละเอียดต่าง ๆ รอบทั้งคันให้รถของผู้ถือประกัน

เคลมประกันภัยกับ Tipinsure ต้องทำยังไง

เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถได้ ก็สามารถโทรแจ้งกับ Tipinsure ผ่านทางโทรศัพท์หมายเลข ได้เลย  1736 กด 1 หรือสามารถแจ้งเคลมผ่านแอปพลิเคชัน TIP FLASH CLAIM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขั้นตอนการเคลมจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ

ขั้นตอนการเคลมสด

  1. เตรียมกรมธรรม์เอาไว้ให้พร้อม และโทรแจ้งไปที่ศูนย์ประกัน พร้อมแจ้งหมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ ทะเบียน ยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ และรายละเอียดเหตุการณ์ เพื่อให้ตัวแทนจากบริษัทประกันออกมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
  2. ระหว่างรอตัวแทนประกันมา ให้เตรียมเอกสารต่างๆ สำหรับยื่นเรื่องเคลม เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ กรมธรรม์
  3. เมื่อประกันตรวจสอบพร้อมประเมินเหตุการณ์แล้ว บริษัทประกันภัยจะออกใบประเมินความเสียหายให้ผู้ถือประกันสามารถนำรถไปเคลมกับอู่ที่อยู่ในเครือโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่ม

ขั้นตอนการเคลมแห้ง

 1. ถ่ายรูปหลักฐานความเสียหาย ณ จุดที่เกิดเหตุ และบันทึกวันเวลา สถานที่ไว้ให้ชัดเจน เพื่อใช้ติดต่อพนักงานและแจ้งเคลมประกัน เอกสารที่ควรต้องเตรียมไว้ คือ

  • สำเนาทะเบียนรถ
  • สำเนาใบขับขี่
  • สำเนาตารางกรมธรรม์
  • สำเนาบันทึกประจำวัน มีหรือไม่มีแล้วแต่กรณี
  • ใบหลักฐานยอมรับผิดจากคู่กรณี มีหรือไม่มีแล้วแต่กรณี

2. เมื่อมีการตรวจสอบแล้ว บริษัทประกันจะทำการออกใบประเมินความเสียหายมาให้ และนำไปส่งเคลมกับอู่ในเครือของบริษัทประกันได้เลยทันที

 

ช่องทางการเคลมกับ  Tipinsure

โทรศัพท์แจ้งเหตุ 1763 (กด 2 สินไหมประเภทอื่น ๆ ) (กด 2 สินไหมทั่วไป)

อีเมล [email protected]

เว็บไซต์ : https://eclaim.dhipaya.co.th/

Line@ id: @tip_genclaims

แอปพลิเคชัน TIP FLASH CLAIM

ส่งจดหมายแจ้งเคลมมาที่ ฝ่ายสินไหมทั่วไป ชั้น 12A 1115 ถ.พระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120

 

ค่าเอ็กเซสคืออะไร

ค่าเอ็กเซส (Excess) คือ จำนวนเงินค่าเสียหายส่วนแรกที่ต้องชำระ กรณีชนแต่หาคู่กรณีไม่ได้ หรือกรณีชนแต่ไม่มีคู่กรณี หรือ  เช่น รถชนเสาไฟฟ้า รถเกิดรอยขีดข่วนโดยไม่ทราบสาเหตุ ยางระเบิด จะต้องชำระในส่วนแรก ซึ่งส่วนใหญ่ค่าเอ็กเซส จะเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ต่อหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งค่าเอ็กเซสก็แตกต่างออกไปตามแต่ละบริษัทประกัน

เคลมประกันชั้น 1 ได้กี่ครั้ง

การเคลมประกันชั้น 1 นั้น สามารถเคลมได้อย่างไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่มีการระบุจำนวนครั้งไว้ในเงื่อนไขด้วย ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายจะขึ้นอยู่กับทุนประกันประเภทนั้น ๆ แต่การเคลมประกันชั้น 1 บ่อย ๆ จะมีผลตามมาดังนี้

 

  • มีการปรับเบี้ยประกันให้เพิ่มขึ้น เพราะยิ่งเคลมประกันภัยรถมากเท่าไหร่ เบี้ยประกันในปีต่อไปก็จะมีการปรับขึ้นด้วย  เพราะบริษัทประกันจะใช้ประวัติเคลมมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณเบี้ยประกันต่ออายุของคุณนั่นเอง
  • ไม่ได้รับส่วนลดประวัติดี

หากในระหว่างปีได้มีการเคลมบ่อยครั้ง ก็จะทำให้เสียสิทธิ์ส่วนลดประวัติดีในส่วนนี้ไป ตรงกันข้ามหากระหว่างปีไม่เคยแจ้งเคลมประกันเลยสักครั้ง ก็จะได้รับส่วนลดประวัติดีในปีต่อไปด้วย โดยใช้เป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันในปีต่ออายุได้ ดังนี้

  • ใช้งานปีที่ 1 ไม่มีประวัติการเคลมประกันจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 20%
  • ใช้งานปีที่ 2 ติดต่อกัน ไม่มีประวัติการเคลมประกันจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 30%
  • ใช้งานปีที่ 3 ติดต่อกัน ไม่มีประวัติการเคลมประกันจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 40%
  • ใช้งานปีที่ 4 ติดต่อกันขึ้นไป ไม่มีประวัติการเคลมประกันจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 50%

เคลมประกันภัยมีค่าใช้จ่ายไหม

 

หากพูดถึงการแจ้งเคลมประกันเพื่อให้พนักงานจากบริษัทมาตรวจสอบความเสียหายนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย

แต่หากพูดถึงการเคลมประกันนั้นจะมีการเสียค่าเสียหายสองแบบคือ

 

  • ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ (Deductible) เป็นค่าเสียหายส่วนแรก ที่มีการระบุไว้ชัดเจนว่าผู้ขับขี่ยอมชำระหากมีการเคลมกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด ซึ่งเป็นการให้ความยินยอมและตกลงกับบริษัทประกันว่าจะชำระค่าเสียหายส่วนแรกเท่าไหร่ ซึ่งจะมีให้ระบุในขั้นตอนการทำประกัน ว่าจะยอมจ่ายค่า Deductible หรือไม่ โดยขึ้นอยู่กับความต้องการ และบริษัทประกันภัย
  • ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ (Excess) เป็นค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับที่ต้องชำระ เมื่อเคลมประกันชั้น 1 ในกรณีชนแต่ไม่มีคู่กรณี  เช่น ชนเสาไฟ ชนต้นไม้ เกิดรอยขีดข่วน ต้นไม้ล้มทับ ตามที่ได้ระบุไว้ข้างต้น มักจะเริ่มต้นที่ 1,000 บาท

 

การจะทำประกันภัยรถยนต์นั้นจึงควรศึกษาความคุ้มครอง และเงื่อนไขการเคลม เงื่อนไขค่าเสียหายส่วนแรกให้ชัดเจน และควรรู้ขั้นตอนการเคลมประกันภัยเอาไว้ เพื่อให้สามารถรับมือกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ การรู้เรื่องการเคลมประกันนั้น ยังช่วยรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือประกันได้อย่างดี เพียงทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะบริษัทประกันจะดำเนินการต่อเอง

ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยนั้น ก็ควรเลือกให้เหมาะกับสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ด้วย เพื่อให้ได้การคุ้มครองที่ครอบคลุมและได้ประโยชน์มากที่สุดเมื่อต้องมีการเคลมประกันเกิดขึ้น ประกันภัยรถยนต์ TIPINSURE มีให้เลือกมากมาย สามารถเลือกดู เปรียบเทียบ ความคุ้มครอง เงื่อนไข เบี้ยประกัน สิทธิพิเศษอื่น ๆ ได้ง่าย ๆ เพื่อให้คุณได้ประกันภัยรถยนต์ที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด

 

#Tag: