รวมเรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้า EV

รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นกระแสในช่วงนี้เลย เพราะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทำให้เป็นมิตรกับสภาพอากาศโดยรอบ ไม่มีควันหรือก๊าซพิษออกมาระหว่างขับขี่ แต่คุณรู้หรือยังว่านอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานแล้ว อะไรที่ทำให้รถไฟฟ้าเป็นที่สนใจ ก่อนซื้อต้องมาอ่านก่อนให้เข้าใจก่อนจะได้ไม่ตัดสินใจผิดพลาด

7 เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้า EV

มาดูกันชัด ๆ ว่ารถยนต์ไฟฟ้าดีจริงไหม ด้วยการตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ให้เป็นไปตามมาตรฐานเริ่มจาก

1. ดูความจุแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า EV

อย่างที่รู้กันว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถที่เคลื่อนตัวได้ด้วยกำลังไฟฟ้าที่บรรจุอยู่ในแบตเตอรี่ ดังนั้นการดูความจุของแบตเตอรี่เป็นเรื่องที่คุณต้องตรวจดูเป็นสิ่งแรก ๆ เพราะจะได้รู้ว่าสมควรที่จะขับไปในระยะทางไกลแค่ไหน โดยที่แบตเตอรี่ความจุ 60-90 kW จะวิ่งได้ไกล 338-473 กม.ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อยากวิ่งไกลก็ต้องหารถ EV ที่มีความจุของกำลังไฟมากกว่านี้

2. เช็กระยะเวลาในการชาร์จไฟ

รถ EV แต่ละรุ่นมีระยะเวลาในการชาร์จไฟไม่เหมือนกัน ตามขนาดของความจุแบตเตอรี่รถไฟฟ้าคันนั้น ๆ เช่น ชาร์จแบตธรรมดาใช้ไฟบ้านกระแสสลับในเวลาในการชาร์จ 12-16 ชั่วโมง ถ้าชาร์จแบบรวดเร็วจากตู้ไฟฟ้าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง และถ้าเป็นการชาร์จแบบเร่งด่วนตามสถานีนอกบ้านจะใช้เวลา 40-60 นาที

3. คำนวณค่าเชื้อเพลิงที่ต้องจ่าย

รถ EV ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับรถธรรมดา พบว่าประหยัดกว่ากันเยอะ โดยที่เฉลี่ยน้ำมันอยู่ที่ 1.50-3 บาทต่อกิโลเมตรเท่านั้น ในขณะที่ค่าไฟฟ้าที่ชาร์จเข้าไปเสียเพียง 0.26-0.50 บาทต่อกิโลเมตรเท่านั้นเอง

4. ทำความเข้าใจเรื่องหม้อแปลงชาร์จไฟที่บ้าน

ปกติถ้าเราขับขี่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงก็จะต้องไปเติมน้ำมัน โดยที่ปั๊มน้ำมันจะมีคนบริการให้คุณครบทุกสิ่ง แต่ถ้าคุณต้องเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า คุณต้องรู้เลยว่า ความรู้เรื่องการชาร์จไฟเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จไฟที่บ้านหรือตามตู้ชาร์จ ไม่เช่นนั้นคุณต้องลำบากแน่ ๆ

5. เช็กมาตรการด้านภาษีและส่วนลด

เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าช่วยรักษาโลกหลาย ๆ ประเทศจึงส่งเสริมให้ใช้กันมาก โดยที่การออกรถไฟฟ้าจะมีมาตรการด้านภาษีและส่วนลดในการซื้อไม่เหมือนรถยนต์ทั่วไป เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการเดินทางด้วยรถ EV รักษ์โลกก็ต้องรู้ถึงสิทธิประโยชน์นี้ด้วยนะ

6. ศึกษาเรื่องการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า EV

เกี่ยวกับเรื่องการซ่อมบำรุงนั้น รถยนต์ไฟฟ้าจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันกว่าครึ่งเพราะไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง แต่ถ้าหากมีส่วนไหนเสียหายก็จะต้องทำใจไว้เลยว่าเสียค่าซ่อมมากกว่ารถปกติแน่ ๆ โดยค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่รถอาจจะดาวน์รถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้เลย เพราะแบตเตอรี่มีราคาสูงถึง 160,000-220,000 บาทเลย

7. เลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า​ EV จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ

แน่นอนว่าข้อนี้ต้องเป็นข้อแรก ๆ ที่คุณต้องคิดถึง ด้วยความที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ยังไม่แพร่หลาย และยังมีการลองผิดลองถูกอยู่มาก ดังนั้นการตัดสินใจซื้อรถ EV สักคันควรต้องเลือกแบรนด์รถที่เป็นชั้นแนวหน้าของวงการนี้จะดีที่สุด

สรุปบทความ

ตอนนี้คุณได้ความรู้เรื่องรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแล้ว ตอนนี้ตัดสินใจได้หรือยังว่าเหมาะกับคุณหรือเปล่า อย่าลืมว่าการเลือกรถสักคันต้องเน้นการใช้งานเป็นหลัก ถ้าคุณไม่ได้เดินทางไกล มีความรู้เรื่องยานยนต์และเห็นว่ารถไฟฟ้าเหมาะสมก็เลือกซื้อกับแบรนด์ที่น่าเชื่อถือจะดีที่สุด เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดความเสียหายหลังซื้อมาใช้บริการ