เช็คสภาพรถ ทริคง่ายๆ ผู้หญิงก็ทำเองได้
30 กันยายน 2024
ผู้ชม: 525 คน

เช็คสภาพรถ ทริคง่ายๆ ผู้หญิงก็ทำเองได้


ผู้หญิงสมัยนี้ การดูแลรถยนต์ บํารุงรักษารถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยคุ้นชินกับสาวๆ มากนัก ส่วนใหญ่เน้นขับอย่างเดียว ลองหันมาดูแลรถยนต์ที่ใช้งานเป็นประจำเพื่อเป็นการยืดอายุของรถยนต์ ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับสาวๆ ที่กังวลว่า การดูแลรถสำหรับผู้หญิงจะมีความยุ่งยากอะไรไหม บอกเลยว่าการตรวจเช็ครถยนต์ง่ายกว่าที่คิด TIPNISURE ขอแชร์ทริคดูแลรถง่ายๆ ในแบบฉบับผู้หญิงขับรถ

 

1. ดูแลรถยนต์ให้สะอาดอยู่เสมอ

แน่นอนว่าสาวๆ มักจะมีของกินของใช้ติดรถอยู่เสมอ ก็ควรทำความสะอาดสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ทั้งภายนอกและภายใน เพราะในแต่ละวันขับรถไปหลายที่ รถต้องเจอกับสิ่งสกปรกมากมาย ถ้าปล่อยไว้คราบฝุ่นอาจฝังลึกจนทำให้สีรถหมองลง ทำให้รถดูเก่าเร็วขึ้น มีโอกาสก็เข้าไปขัดเคลือบผิวสภาพสีรถสักหน่อย ส่วนภายในอะไรที่ไม่จำเป็นก็เคลียร์ออกเป็นการลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ อย่างบางกรณีที่มีสิ่งของไปขัดขวางการควบคุมรถ ก่อให้เกิดความสูญเสียกันมานับไม่ถ้วน

 

2. ตรวจเช็กลมยางเป็นประจำ

เริ่มจากการเช็กด้วยสายตาจากสภาพโดยรวมของยางว่ามีร่องรอยการขูด ขีด ข่วนที่อาจจะสร้างความเสียหายกับยาง ดอกยางเริ่มโล้น ใช้งานมาแล้ว 3 ปี หรือประมาณ 60,000 กิโลเมตร ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางรถยนต์
และควรเติมลมยางให้มีความดันที่ 25-30 PSI หรือสังเกตที่ประตูรถฝั่งคนขับ ก็จะบอกความดันของยางหน้าและหลังติดตรงขอบประตูรถ เช็กสัปดาห์ละครั้งรับรองว่าการขับขี่ของคุณจะดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาแน่นอน
ยางรถยนต์มีความสำคัญ เพราะถ้ายางอยู่ในสภาพที่สึกหรอ หรือหมดอายุการใช้งาน ก็อาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ หรือคุณลองสังเกตสภาพยางรถยนต์ คือลองขับขี่ทางตรงแล้วดูว่ารถส่ายไปมา หรือเบี่ยงออกนอกเส้นทางบ้างหรือไม่ แนะนำให้รีบพาไปตรวจสภาพและตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่

 

3. เช็กรอยน้ำรั่วตอนจอดรถ

เป็นวิธีสังเกตง่ายๆ ทุกครั้งที่คุณเลื่อนหรือจอดรถยนต์ให้สังเกตรอยหยด รอยรั่ว คราบน้ำมันที่พื้น ถ้ามีคราบเหล่านี้อาจเกิดความผิดปกติที่ตัวรถ แนะนำนำรถยนต์เข้าตรวจเช็กที่ศูนย์เพื่อหาสาเหตุตั้งแต่เนินๆ

 

4. ไฟเตือนที่หน้าปัดอย่ามองข้าม

ไฟหน้าปัดที่มีสัญลักษณ์ต่างๆ จะมีความหมายเฉพาะที่แตกต่างกัน สาวๆ ควรที่จะศึกษาเรื่องสัญลักษณ์เหล่านี้เอาไว้ เพื่อไว้คอยสังเกตว่ามีไฟสัญญาณเตือนอะไรผิดแปลกขึ้นมาจากปกติที่เคยเห็นทุกวันหรือเปล่า เพราะเป็นไฟสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงความผิดของรถยนต์ควรรีบนำรถเข้าไปตรวจเช็กทันที


5. ตรวจเช็กน้ำมันเครื่อง

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องหมั่นตรวจเช็กคือน้ำมันเครื่องที่ช่วยในการหล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์ ให้มีการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่เมื่อใช้ไปสักระยะ น้ำมันเครื่องจะเกิดการเสื่อมสภาพ มีปริมาณที่ลดลงจากการเผาไหม้ ดังนั้นควรหมั่นเช็กระดับน้ำมันเครื่องว่าอยู่ในระดับปกติไหม ด้วยการดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาดู ถ้าอยู่ระดับ F และ L  แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ แต่ถ้าต่ำกว่าตัว L หรือขีดล่างก็อาจจะทำให้เกิดปัญหากับเครื่องยนต์ได้ แนะนำควรหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

 

6. ตรวจระดับหม้อน้ำ

การเช็กหม้อน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้รถยนต์เกิดอาการโอเวอร์ฮีท หรือเครื่องยนต์เกิดความร้อนจนเกินไป ระดับน้ำยาหล่อเย็นหรือ น้ำในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่ตลอด ถ้าปริมาณน้ำในหม้อลดลงก็ควรเติมน้ำสะอาดลงไปให้เต็ม แนะนำให้พกขวดน้ำสำรองติดรถเอาไว้เมื่อต้องขับขี่ทางไกล

 

7. คอยสังเกตความผิดปกติ

ขับรถเป็นประจำอยู่ทุกวัน หากเกิดความผิดปกติเล็กน้อยก็น่าจะพอจับสังเกตได้ อย่างเสียงแปลกๆ ที่ดังออกมาในระหว่างขับขี่ การควบคุมตัวรถ การสั่น หากลองตรวจเช็กเองแล้วไม่ทราบสาเหตุ ก็ควรนำรถยนต์เข้าเช็กสภาพให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย


ไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมล่ะ แค่ลองหันมาใส่ใจกับการดูแลรถยนต์ให้มากขึ้น ก็เป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาทั้งรถเสียและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย ฝึกดูบ่อยๆ อีกหน่อยก็เชี่ยวชาญเอง
ที่สำคัญควรมีประกันรถยนต์ไว้คุ้มครองตลอดการเดินทาง จะได้ไม่หวั่นแม้เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แนะนำประกันรถยนต์ TIP Lady ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ทำมาเพื่อคุณผู้หญิง ความคุ้มครองพิเศษตลอด 24 ชม. พร้อมให้คำแนะนำทุกสถานการณ์ เพื่อให้สาวๆ ได้คลายความกังวลใจในการขับขี่ทุกเส้นทาง เช็คเบี้ยและความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมที่ TIPINSURE.COM หรือโทร 1736 

#Tag: