RSV ไวรัสที่ผู้ใหญ่ก็ป่วยได้

เข้าสู่ช่วงหน้าฝนที่ไร ปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง คือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV ที่ปกติมักจะคุ้นเคยกับการระบาดในเด็ก แต่รู้ไหม? ผู้ใหญ่เองก็มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัส RSV ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากการติดเชื้อ RSV เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ ภาวะหายใจล้มเหลว ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิตได้

มาทำความรู้จักกับเชื้อไวรัส RSV กันให้มากขึ้น เพื่อรู้แนวทางป้องกัน สามารถป้องกันและรับมือกับการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

RSV คืออะไร?

RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus เชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง เช่น หลอดลมและปอด ไวรัสนี้มีลักษณะที่สามารถทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงอาการขั้นรุนแรงได้ ยิ่งช่วงนี้ที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยก็มีโอกาสที่พบโรคนี้ได้สูงขึ้นกว่าฤดูอื่นๆ โดยเฉพาะ

• เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปี
• ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 65 ปี ขึ้นไป หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว มีร่างกายอ่อนแอ ซึ่งผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากการติดเชื้อ RSV

อาการของโรค RSV

ผู้ใหญ่สามารถติด RSV ได้เช่นเดียวกับเด็กเล็ก คล้ายกับอาการของหวัดธรรมดา แต่ RSV มักมีอาการหายใจลำบาก ไอเรื้อรัง มีไข้สูงและจะมีระยะเวลาในการเป็นนานว่าไข้หวัดธรรมดาโดยจะอยู่ที่ 5-7 วัน แต่ในกลุ่มที่เกิดอาการรุนแรง เช่น มีภาวะปอดอักเสบ ปอดบวม หรือในคนที่เสียชีวิตได้ คือ กลุ่มคนอายุมากกว่า 65 ปี กลุ่มที่มีโรคประจำตัว เช่น เป็นโรคหอบหืด โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ  เป็นต้น

อาการที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที

• หายใจลำบากมากขึ้น หายใจเร็ว
• ไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ไม่มีท่าทีว่าจะลดลง 
• อาการแย่ลงอย่างรวดเร็วเห็นได้ชัด
• ไม่สามารถกินอาหารหรือดื่มน้ำได้
• ชักหรือหมดสติ เป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องได้รับการช่วยเหลือด่วน

เชื้อไวรัส RSV ติดต่อทางไหนได้บ้าง

ผู้ที่ติดเชื้อไวรัส RSV สามารถแพร่กระจายเชื้อได้นาน 3-8 วัน และสามารถติดต่อโดยตรงจากการสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ อย่างน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ

ความร้ายแรงของโรค RSV ในผู้สูงอายุ

รู้กันดีอยู่แล้วว่าในผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรงเมื่อเทียบกับวัยหนุ่มสาว และยิ่งมีโรคประจำตัวระบบภูมิกันอ่อนแอทำให้มีความเสี่ยงสูงมากต่อการติดเชื้อ RSV ได้ง่ายกว่าวัยอื่นๆ และนำไปสู่โรคร้ายแรงอื่นๆ เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือภาวะหายใจล้มเหลว เรียกได้ว่ามีความรุนแรงมากกว่าในเด็กที่ติดเชื้อ RSV

วิธีการป้องกันและรักษา RSV

RSV ยังไม่มียารักษาเชื้อไวรัสได้โดยตรง เป็นการรักษาตามอาการแบบประคับประคอง เช่น การให้ยาลดไข้ การดูดเสมหะ การให้ยาขยายหลอดลมในรายที่มีภาวะหลอดลมตีบ  แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวัคซีน RSV (Arexvy Vaccine) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยป้องกัน ลดความเสี่ยงการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้โดยตรง 

ตามรายงานวิจัยเบื้องต้น rsv virus vaccine  (Respiratory syncytial virus Respiratory syncytial virus; RSV) จะใช้สำหรับกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่าง (Lower Respiratory Tract Disease; LRTD) ที่มีสาเหตุมาจาก respiratory syncytial virus ซึ่งผลของวัคซีนจะช่วยทำให้ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อได้ โดยฉีดเพียง 1 เข็ม เท่านั้น!

ควรฉีดวัคซีน RSV เมื่อไหร่?

ฉีดก่อนเข้าฤดูการแพร่ระบาดของ RSV จะอยู่ในช่วงฤดูฝน เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – เดือนพฤศจิกายนของทุกปี

การป้องกันเชื้อ RSV ในผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องร่วมมือจากทั้งตัวผู้สูงอายุเอง คนในครอบครัว ช่วยกันดูแลอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ RSV และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ แต่ TIPINSURE ขอแนะนำประกันสุขภาพ TIP ชิลชิล ที่คุ้มครองครอบคลุมทุกโรคจากการเจ็บป่วย มีแผนคุ้มครองทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) การมีประกันสุขภาพไว้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจ่ายค่ารักษาเองเมื่อเจ็บป่วยหนักเป็นเรื่องหนักกว่าเยอะ สนใจซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ได้เลยที่ TIPINSURE.COM หรือโทร 1736

ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท 3
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลบีเอ็นเอช