เผยเคล็บลับเลือกอู่ซ่อมรถ งบไม่บานปลาย
สำหรับคนขับรถบ่อย ๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหน คงจะเคยเห็นอู่ซ่อมรถตั้งอยู่อย่างมากมาย แต่หากรถเราเกิดเสียต้องเข้าซ่อมขึ้นมาจริง ๆ อะไรจะบอกได้ว่าอู่ซ่อมอู่นั้นดีและมีคุณภาพมาตรฐาน พอที่จะเอารถคันโปรดของเราเข้าไปซ่อม ยิ่งฟังมาจากหลาย ๆ คนที่เคยเอารถเข้าซ่อม มักจะบ่นกันเรื่องมีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ส่วนต่างมากมาย ทั้งค่าแรงค่าอะไหล่ที่แพงจนเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างอู่ซ่อมในเครือบริษัทประกันว่าจะเลือกอู่ไหนดี อู่ที่มีชื่อเสียง หรือ อู่ซ่อมรถใกล้ที่สุด จะได้ไม่ต้องเสียเวลา วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับเลือกอู่ซ่อมรถ งบไม่บานปลาย เลือกอย่างไรดี
ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เลือกอู่แบบไหนดี
อู่ในเครือบริษัทประกัน
จะเป็นอู่ซ่อมรถที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของบริษัทประกันกำหนดไว้ หากเกิดปัญหากับรถของเรา สามารถนำรถเข้าซ่อมได้ทันที โดยไม่ต้องสำรองจ่ายหากอยู่ในเงื่อนไขที่บริษัทประกันคุ้มครอง ข้อดีอีกอย่างคือหากเป็นอู่ในเครือบริษัทประกัน หากมีปัญหาอะไร บริษัทประกันจะสามารถติดตาม และประสานงานช่วยเหลือผู้ทำประกันได้ง่าย
อู่นอกเครือบริษัทประกัน
ในกรณีที่หลาย ๆ คนที่มีอู่ซ่อมเจ้าประจำอยู่แล้ว หรืออยากเลือกอู่ซ่อมรถใกล้ที่สุด จะได้สะดวกในการเข้าไปดูแล อาจจะเลือกใช้บริการอู่นอกเครือบริษัทประกัน แต่กรณีนี้ผู้ทำประกันต้องสำรองเงินจ่ายค่าซ่อมไปก่อน แล้วถึงจะไปทำเรื่องเบิกเงินกับบริษัทประกันในภายหลัง
เคล็ดลับเลือกอู่ซ่อมรถอย่างไร งบไม่บานปลาย
1. เลือกอู่ซ่อมที่ได้มาตรฐาน
ข้อแรกคงจะต้องเริ่มจากการลองสังเกตด้วยตัวเองว่า มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือพร้อมแค่ไหน จัดพื้นที่เป็นสัดส่วน มาตรฐานในการทำงานของช่าง มองดูแล้วทำงานแบบมืออาชีพเป็นระบบดีหรือเปล่า หากเป็นอู่ใหญ่ที่มีรถเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก มีการพูดถึงหรือรีวิวในโซเชียลมีเดีย ก็แสดงว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีแน่นอน โดยเฉพาะหากเป็นอู่ซ่อมรถที่ได้รับการรับรอง จาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก็จะยิ่งน่าไว้วางใจมากขึ้นไปอีก
2. มีใจรักงานบริการ
อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ หากได้ลองพูดคุยกับเจ้าของอู่หรือช่าง ก็พอจะรู้ได้ในเบื้องต้นว่า เป็นอู่ซ่อมรถที่พร้อมบริการหรือไม่ เพราะอู่ซ่อมรถที่ดี ส่วนใหญ่จะค่อนข้างใส่ใจและเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า ที่นำรถที่ได้รับความเสียหายเข้ามาใช้บริการ มักจะพยายามอธิบายวิธีการซ่อมหรือแก้ไขให้เข้าใจได้ง่าย ๆ พร้อมที่จะตอบคำถามเรื่องต่าง ๆ แบบไม่หลีกเลี่ยงหรือรู้สึกรำคาญ
3. ค่าซ่อมยุติธรรม
การเสนอราคา หรือประเมินราคาซ่อมรถยนต์ หากเป็นอู่ซ่อมรถที่มีคุณภาพมาตรฐานที่ดี จะประเมินราคามาให้ค่อนข้างละเอียด แยกสัดส่วนค่าใช้จ่าย ค่าบริการ ค่าแรง ค่าอะไหล่ อย่างชัดเจน มีการอิงราคากลางเปรียบเทียบ ตีราคาค่าซ่อมที่ยุติธรรมและชัดเจน เพื่อให้เจ้าของรถเกิดความสบายใจ แต่หากเจออู่ซ่อมรถที่ตีราคาคร่าว ๆ พยายามบ่ายเบี่ยง ก็ควรหลีกเลี่ยงก่อนจะดีกว่า เพราะมีโอกาสที่งบจะบานปลายเอาได้ง่าย ๆ
4. ระยะเวลาการซ่อม
ระยะเวลาการซ่อมรถก็เป็นอีกเรื่องที่เจ้าของรถ ต้องตรวจเช็กกับอู่ซ่อมรถให้ดี เพราะบางครั้งอู่ซ่อมใหญ่ ๆ ที่เราเห็นว่ามีรถเข้ามาใช้บริการมากมาย นั่นก็จะแสดงว่าคิวซ่อมรถของเรา ก็อาจจะกินเวลายาวนานตามไปด้วย หากอู่ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจจะรับ ๆ ไปก่อนว่าจะเสร็จวันนั้นวันนี้ แต่พอเอาเข้าจริงใช้เวลาซ่อมนานเป็นเท่าตัว ซ่อมอย่างไรก็ไม่เสร็จเสียที จึงควรสอบถามถึงการประเมินเวลาซ่อมรถให้ชัดเจนก่อนด้วย
5. ต้องมีรับประกัน
อู่ซ่อมรถยนต์ที่ได้มาตรฐานอย่างน้อยควรมีการรับประกันงานซ่อม ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ในระยะการรับประกัน หากเกิดอะไรที่ผิดปกติ เจ้าของรถสามารถนำรถเข้ามาตรวจเช็กแก้ไขเพิ่มเติมได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ก่อนจะเลือกส่งรถเข้าซ่อม ควรถามอู่ซ่อมถึงการรับประกันให้ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่เกิดความยุ่งยากตามมาภายหลัง
สำหรับรถคันโปรดของเรานั้น หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดจนต้องนำรถเข้าซ่อม การเลือกใช้บริการอู่ซ่อมรถยนต์ดี ๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญมากจริง ๆ เพราะการเลือกอู่ซ่อมที่ไม่ได้มาตรฐาน จะนำเรื่องปวดหัวยุ่งยากตามมาภายหลังอีกมากมาย ดังนั้น การเลือกทำประกันรถยนต์ดี ๆ โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก TIPINSURE ที่มีแผนประกันที่คุ้มค่า และมีให้เลือกหลากหลายแบบ มีอู่ซ่อมรถมาตรฐานในเครือมากมายทั่วประเทศ มีบริการรับส่งรถเข้าซ่อมกับอู่โดยไม่ต้องขับรถไปเอง และยังสามารถซื้อประกันออนไลน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว คลิกเช็กราคาเลย!