เปิดแผนที่รถไฟญี่ปุ่น มีเส้นทางไหนบ้างฉบับอัปเดต 2024
21 สิงหาคม 2024
ผู้ชม: 44 คน

เปิดแผนที่รถไฟญี่ปุ่น ใครวางแผนเที่ยวต้องดู

การเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นนั้น ระบบรถไฟถือเป็นหัวใจสำคัญที่นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว ที่มีระบบรถไฟใต้ดินที่ซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพสูง การเข้าใจแผนที่รถไฟญี่ปุ่นจึงเป็นตัวช่วยที่ให้การเดินทางของคุณราบรื่นและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น บทความนี้ ประกันทิพยประกันภัย จะพาคุณไปทำความรู้จักกับแผนที่รถไฟญี่ปุ่นฉบับล่าสุด พร้อมแนะนำเส้นทางรถไฟฟ้าสำคัญที่จะพาคุณไปยังจุดท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ในโตเกียว

 

แผนที่รถไฟญี่ปุ่นฉบับล่าสุด 

แผนที่รถไฟโตเกียวประกอบด้วยเส้นทางรถไฟใต้ดินหลัก 9 สาย ซึ่งดำเนินการโดย Tokyo Metro และอีก 4 สายที่ดำเนินการโดย Toei Subway รวมทั้งสิ้น 13 สาย ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของโตเกียว แต่ละสายจะมีสีและรหัสตัวอักษรเฉพาะ ทำให้ง่ายต่อการจดจำและวางแผนการเดินทาง

 

เส้นทางรถไฟฟ้าญี่ปุ่นมีสายไหนบ้าง

เส้นทางรถไฟฟ้าญี่ปุ่นมีสายไหนบ้าง ไปดูกันเลย

Ginza Line (สีส้ม, G)

Ginza Line เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าสายแรกของโตเกียว เชื่อมต่อระหว่างย่านอาซากุสะและชิบุยะ ผ่านย่านช้อปปิ้งชื่อดังอย่างกินซ่า สถานีสำคัญบนเส้นทางนี้ ได้แก่

  • Asakusa (G19): ใกล้วัดเซนโซจิและถนนนากามิเสะ
  • Ginza (G09): ศูนย์กลางแหล่งช้อปปิ้งหรูหรา
  • Shibuya (G01): ย่านวัยรุ่นและแฟชั่น

Marunouchi Line (สีแดง, M)

Marunouchi Line เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับการเที่ยวชมย่านธุรกิจและแหล่งบันเทิงหลักของโตเกียว ควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความแออัดในช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะวิ่งผ่านใจกลางโตเกียว และเชื่อมต่อสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมถึง

  • Tokyo (M17): สถานีรถไฟหลักของโตเกียว
  • Shinjuku (M08): ย่านธุรกิจและบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว
  • Ikebukuro (M25): ศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าและแหล่งบันเทิง

Hibiya Line (สีเทา, H)

Hibiya Line เชื่อมต่อย่านธุรกิจกับย่านที่อยู่อาศัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิมและความทันสมัยของโตเกียว ใครที่กำลังจะไปในย่านนี้ ควรวางแผนให้มีเวลาเพียงพอสำหรับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และสวนสาธารณะสำคัญ เช่น

  • Roppongi (H04): แหล่งบันเทิงยามค่ำคืนและพิพิธภัณฑ์ศิลปะ
  • Tsukiji (H11): ใกล้กับตลาดปลาเก่าและใหม่
  • Ueno (H17): สวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์

Tozai Line (สีฟ้าอ่อน, T)

Tozai Line เชื่อมฝั่งตะวันออกและตะวันตกของโตเกียว เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับการสัมผัสชีวิตประจำวันของชาวโตเกียว และหาของอร่อยรับประทาน โดยจะผ่านสถานีสำคัญๆ เช่น

  • Otemachi (T09): ย่านธุรกิจใจกลางโตเกียว
  • Takadanobaba (T03): ย่านนักศึกษาและแหล่งอาหารอร่อย

Chiyoda Line  (สีเขียว, C)

Chiyoda Line เส้นทางที่เหมาะมากสำหรับคนที่สนใจแฟชั่นและวัฒนธรรมร่วมสมัยของญี่ปุ่น โดยสถานีนี้จะวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง รวมถึง

  • Meiji-jingumae (C03): ใกล้ศาลเจ้าเมจิและย่านฮาราจูกุ
  • Kasumigaseki (C08): ย่านราชการและพิพิธภัณฑ์

Yurakucho Line (สีทอง, Y)

Yurakucho Line เป็นเส้นทางที่ผสมผสานระหว่างการท่องเที่ยวและการสัมผัสชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่น โดยสถานีนี้จะเชื่อมต่อย่านธุรกิจกับย่านที่อยู่อาศัย ซึ่งผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ ของญี่ปุ่น อาทิ

  • Yurakucho (Y18): ใกล้ย่านกินซ่าและสถานีโตเกียว
  • Ikebukuro (Y09): ศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าและแหล่งบันเทิง

Fukutoshin Line  (สีน้ำตาล, F)

Fukutoshin Line เป็นเส้นทางใหม่ที่เชื่อมต่อย่านสำคัญหลายแห่ง นักท่องเที่ยวคนไหนที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมป๊อปและแฟชั่นร่วมสมัยของญี่ปุ่น ควรเตรียมพร้อมสำหรับความแออัดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก่อนเดินทางไป เพราะเส้นทางนี้ผ่านสถานที่ยอดฮิต อย่างเช่น

  • Shinjuku-sanchome (F13): ใจกลางย่านชินจูกุ
  • Meiji-jingumae (F15): ใกล้ศาลเจ้าเมจิและย่านฮาราจูกุ

Hanzomon Line (สีม่วง, Z)

Hanzomon Line  ใครที่ชอบและสนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น บอกเลยว่าห้ามพลาดที่นี่ เพราะสถานีนี้จะไปคุณไปพบกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เช่น

  • Oshiage (Z14): สถานีใกล้ Tokyo Skytree
  • Kudanshita (Z06): ใกล้พระราชวังอิมพีเรียล

Namboku Line (สีเขียวเข้ม, N)

Namboku Line เป็นสถานีที่เชื่อมต่อเหนือ-ใต้ของโตเกียว ให้คุณได้สำรวจย่านที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่มีฐานะ ผ่านสถานีสำคัญเช่น

  • Korakuen (N11): ใกล้สวนสนุก Tokyo Dome City
  • Roppongi-itchome (N05): ย่านธุรกิจและบันเทิง

 

สรุปบทความ

เส้นทางรถไฟฟ้าโตเกียวแต่ละสายมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย การวางแผนเส้นทางล่วงหน้าจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและสามารถเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด แต่การเตรียมตัวที่ดีไม่ได้จำกัดอยู่แค่การวางแผนเส้นทางเท่านั้น การทำประกันการเดินทางต่างประเทศก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะประกันการเดินทางจะเป็นเกราะป้องกันให้คุณ ช่วยลดความเสี่ยงและความกังวลจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาสุขภาพ อุบัติเหตุ หรือแม้แต่การสูญหายของสัมภาระ เมื่อหมดกังวลกับปัญหาเหล่านี้ได้ ทริปการเดินทางของคุณก็จะเป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบและน่าจดจำแน่นอน

#Tag: