ก่อนซ่อมแซมบ้านต้องรู้อะไรบ้าง

บ้านอยู่มาหลายปีแล้ว ตรงนั้นก็เก่า ตรงนี้ก็โทรม อยากรีโนเวทซ่อมแซมบ้านเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ดูใหม่ แต่การจะปรับปรุงซ่อมแซมบ้านก็ต้องมีการวางแผน มีหลายเรื่องให้ต้องคิด ถึงแม้จะเป็นการซ่อมแค่ส่วนเล็กๆ แต่ถ้าไม่วางแผนให้ดีงบประมาณอาจบานปลายหรือไม่บ้านก็ออกมาไม่ตรงกับความต้องการของเราได้ แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีหรือต้องวางแผนอย่างไร

อยากปรับปรุงบ้านใหม่ มีอะไรที่ควรรู้ก่อนบ้าง TIPINSURE มีแนวทางความรู้ดีๆ มาฝากกัน

1. เป้าหมายในการซ่อมครั้งนี้

อันดับแรกก่อนการเริ่มรีโนเวทบ้าน คุณคงมีคำตอบในใจอยู่แล้วว่าอยากได้บ้านให้เป็นไปตามสไตล์ไหน การปรับปรุงครั้งนี้ทำเพื่อซ่อมแซมบ้านที่ทรุดโทรมหรือปรับปรุงเพื่อผู้สูงอายุในบ้าน ต้อนรับสมาชิกตัวน้อยคนใหม่ คุณก็จะมองเห็นภาพรวมของการทำงานได้ดียิ่งกว่าเดิม ว่าควรจะรีโนเวทบ้านแบบไหนให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด และยังช่วยให้กำหนดงบประมาณได้ง่ายกว่าเดิมด้วย

2. สำรวจบ้านประเมินปัญหาจุดที่ซ่อมแซม

อันดับต่อไปคุณต้องประเมินปัญหาและตรวจเช็คสภาพบ้านอย่างละเอียดว่ามีจุดไหนที่ต้องได้รับการซ่อมแซมหรือปรับปรุงใหม่ จดลิสต์ว่าแต่ละจุดเกิดปัญหาอะไรบ้าง วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดจุดประสงค์เบื้องต้นเพื่อวางแผนการซ่อมบ้านให้เหมาะสมได้

• โดยเริ่มต้นด้วยการสำรวจอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน เช่น ฝ้าเพดานตก, ปัญหาน้ำรั่วซึมหลังคารั่ว, รอยแตกร้าวหรือการทรุดตัวของบ้าน ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง
• หาช่างมืออาชีพมาตรวจสอบบ้านอย่างละเอียด วิธีนี้เพื่อเป็นการวางแผนการซ่อมแบบจริงจัง ยิ่งถ้าพบการทรุดตัวของดินจนทำให้เกิดช่องว่างระหว่างตัวบ้านและพื้นดิน ก็ควรให้วิศวกรผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้างบ้านและประเมินว่าต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาบ้านทรุด
• การประเมินบ้านทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการซ่อมบ้านให้ตรงตามเป้าหมายของคุณ และยังช่วยให้สามารถสื่อสารกับผู้รับเหมาหรือช่างได้อย่างตรงจุด 

3. ซ่อมแซมบ้าน ต้องขออนุญาตให้เรียบร้อย

ก่อนเริ่มซ่อมบ้าน คุณควรศึกษารายละเอียดข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน ในเรื่องการดัดแปลง ต่อเติม ไปจนถึงปรับเปลี่ยนสัดส่วน หรือปรับปรุงบ้านให้เปลี่ยนไปจากเดิม ผู้เป็นเจ้าของบ้านไม่ต้องทำหนังสือขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เว้นแต่! มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบ้านให้ผิดไปจากเดิม เช่น การขยายพื้นที่ชั้นใดชั้นหนึ่งของอาคารมากกว่า 5 ตารางเมตร มีการลดเพิ่มเปลี่ยนจำนวนเสา คาน บันได และผนัง หรือขยายหลังคาให้ปกคลุมเนื้อที่มากขึ้นกว่าเดิม ลักษณะนี้ถือเป็นการต่อเติมบ้านที่ต้องขออนุญาตก่อน หรือถ้าคุณไม่แน่ใจเรื่องข้อกฎหมายว่าจำเป็นต้องขออนุญาตหรือไม่ แนะนำว่าควรยื่นหนังสือขออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นพิจารณาก่อน เพื่อความปลอดภัยจากการทำผิดกฎหมาย และหลีกเลี่ยงการโดนเพื่อนบ้านฟ้องร้องได้

4. ประเมินงบประมาณ ไม่บานปลาย

ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของการซ่อมแซมบ้าน คืองบประมาณที่คุณมี ดังนั้นควรตั้งงบประมาณการซ่อมแซมแต่ละจุดอย่างรอบคอบ และกำหนดระยะเวลาเพื่อป้องกันการยืดเยื้องาน จัดวางโครงสร้างและรูปแบบให้แน่ชัด อย่าเปลี่ยนรูปแบบบ่อยเพราะอาจทำให้การซ่อมแซมนั้นใช้เวลานานขึ้น เริ่มต้นควรตั้งงบไว้สัก 20-30% ก่อน ซึ่งหากคุณไม่มีเงินก้อนโตพอที่จะทุ่มซ่อมบ้านในครั้งเดียว การแบ่งซ่อมทีละจุดๆ จึงเป็นทางเลือกที่ดี
ข้อแนะนำอีกข้อ คือวัสดุที่ใช้ในการซ่อมแซม การคำนวณวัสดุที่ต้องใช้ให้พอดี เพราะการซื้อวัสดุมาเหลือทิ้งหมายถึงเงินที่หายไปอย่างเปล่าประโยชน์ ควรให้ช่างคำนวณมาให้อย่างละเอียดและสมเหตุสมผล และนอกจากนี้ควรเลือกแหล่งจำหน่ายวัสดุที่มีคุณภาพ ความหลากหลายของแบรนด์ให้คุณได้เปรียบเทียบเลือกใช้ 

5. เลือกช่างซ่อมบ้าน

หลังจากที่คุณประเมินความเสียหาย และงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือการเลือกช่างเข้ามาซ่อมแซมบ้าน การจะเลือกช่างซ่อมคุณสมบัติหลักที่ควรมองหา คือต้องมีความรู้และทักษะทางเทคนิค มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับงานซ่อมแซมบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาไฟฟ้า ท่อประปา หรือการสร้างและซ่อมแซมโครงสร้างภายในบ้าน เพราะสิ่งสำคัญของการซ่อมแซมบ้านจะขึ้นอยู่กับฝีมือของช่าง ประสบการณ์ของทีมงานช่าง เพื่อให้คุณสามารถเลือกช่างที่เหมาะสมกับความต้องการและความพึงพอใจของคุณได้ที่สุด มาดูเคล็ดลับในการเลือกช่างซ่อมบ้านกันก่อน

• ความน่าเชื่อถือของช่าง : ตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตในการทำงานที่เหมาะสมหรือไม่ การมีใบอนุญาตแสดงว่าช่างได้ผ่านการฝึกฝน การทดสอบที่จำเป็นแล้ว หากการทำงานที่ไม่มีใบอนุญาตหมายความว่าคุณอาจจะได้ช่างที่ไม่มีประสบการณ์ที่เพียงพอ 
• ดูรีวิว : คุณอาจเลือกช่างตามคำแนะนำของเพื่อน คนรู้จัก เพราะถือว่าเป็นช่างซ่อมบ้านที่มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงมาการันตีฝีมือ หรือหากคุณต้องหาช่างโดยที่ไม่ได้มีคำแนะนำจากใคร อาจต้องค้นหาช่างซ่อมบ้านจากการอ่านความคิดเห็นเชิงบวกหรือเชิงลบอย่างไรบ้างจากลูกค้าที่เคยใช้บริการประกอบการตัดสินใจ ให้คุณรู้สึกมั่นใจในคุณภาพของช่างซ่อมบ้านที่คุณเลือก
• พิจารณาราคา : แนะนำให้เรียกช่างมาตีราคาสัก 2 รายขึ้นไป เพื่อเปรียบเทียบราคา ถึงแม้ช่างที่เลือกมาจะมีคนรู้จักแนะนำมาอีกที แต่คุณก็ควรนัดช่างอีก 2 รายมาตีราคาเทียบกัน หากราคามาใกล้เคียงกัน ก็ให้เลือกจากผลงานที่ผ่านมา
• การรับประกันงาน : ควรเลือกช่างที่มีการบริการหลังการทำงาน การรับประกันงานที่พร้อมให้คำปรึกษาเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับงานเกิดขึ้น

เห็นแล้วใช่ไหมว่าการซ่อมแซมบ้านอาจดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ยากเกินการควบคุมของคุณ หากมีการวางแผนที่ดี มีผู้เชียวชาญที่ไว้ใจค่อยให้คำแนะนำ คุณก็จะได้บ้านสวยคุณภาพดีตรงความต้องการของคุณ แต่มีบ้านแล้วก็อย่าลืมทำประกันภัยบ้าน ทิพยยิ้มได้พลัส ที่ให้ความคุ้มครองความเสี่ยงจากเหตุไฟไหม้ ฟ้าฝ่า ภัยธรรมชาติ การถูกโจรกรรม ยิ่งไปกว่านั้นยังชดเชยกรณีไฟดับอีกด้วย มาสำรวจประกันภัยที่เหมาะกับคุณได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736