อาการ Jet Lag เกิดจากอะไร ควรรับมือแบบไหน
คุณเคยตื่นมาในโรงแรมต่างประเทศด้วยความรู้สึกงุนงง สับสน และเหนื่อยล้าแม้จะนอนเต็มอิ่มหรือไม่? นี่อาจเป็นสัญญาณของอาการ Jet Lag ที่หลายคนต้องเผชิญเมื่อต้องเดินระยะไกล แต่ Jet Lag คืออะไรกันแน่? ทำไมร่างกายของเราถึงรู้สึกแปลกแยกกับเวลา? แล้วเราจะรับมือกับมันอย่างไรเพื่อให้ทริปของเรายังสนุกอยู่ บทความนี้ TIPINSURE จะพาคุณไปไขปริศนาของ Jet Lag พร้อมเผยเคล็ดลับการปรับตัวที่จะทำให้การเดินทางของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น มาเริ่มต้นการเดินทางที่สมบูรณ์แบบไปด้วยกัน!
Jet Lag คืออะไร
Jet Lag หรือที่เรียกเต็มๆ ว่า Jet Lag Syndrome เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายต้องปรับตัวให้เข้ากับเขตเวลาใหม่ที่แตกต่างจากเขตเวลาเดิมอย่างรวดเร็ว มักพบในผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบินข้ามเขตเวลาหลายๆ ชั่วโมง ซึ่งอาการ Jet Lag อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย งุนงง นอนไม่หลับ หรือหลับในเวลาที่ไม่เหมาะสม
Jet Lag เกิดจากสาเหตุอะไร
นาฬิกาชีวิตแปรปรวน
สาเหตุหลักของ Jet Lag คือการที่นาฬิกาชีวิต หรือที่เรียกว่า Circadian Rhythm ของร่างกายถูกรบกวน โดยตัวนาฬิกาชีวิตนี้จะทำหน้าที่ควบคุมวงจรการหลับ-ตื่น การหลั่งฮอร์โมน และกระบวนการทางชีวภาพอื่นๆ ของร่างกาย เมื่อเราต้องเดินทางข้ามเขตเวลา นาฬิกาชีวิตจะไม่สามารถปรับตัวได้ทันที ทำให้เกิดความไม่สอดคล้องระหว่างเวลาภายในร่างกายกับเวลาจริงในสถานที่ปลายทาง
ผลกระทบจากแสง
แสงเป็นปัจจัยสำคัญที่ควบคุมนาฬิกาชีวิตของเรา เมื่อเราเดินทางไปยังเขตเวลาใหม่ ร่างกายจะได้รับแสงในช่วงเวลาที่แตกต่างจากเดิม ส่งผลให้มีการผลิตเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับเกิดความผิดปกติ ทำให้เรารู้สึกง่วงหรือตื่นในเวลาที่ไม่เหมาะสม
แรงดันภายในเครื่องบิน
นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมภายในเครื่องบินก็มีส่วนทำให้อาการ Jet Lag รุนแรงขึ้น เพราะด้วยความดันอากาศที่ต่ำและอากาศที่แห้งภายในห้องโดยสารอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย และขาดน้ำ ซึ่งเป็นการเพิ่มความรุนแรงของอาการ Jet Lag
อาการ Jet Lag เกิดกับใครได้บ้าง
อาการ Jet Lag สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่เดินทางข้ามเขตเวลา แต่บางกลุ่มคนอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ ได้แก่
- นักเดินทางบ่อย เช่น นักธุรกิจที่ต้องบินไปต่างประเทศเป็นประจำ
- ผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายปรับตัวได้ช้ากว่าคนหนุ่มสาว
- ผู้ที่มีปัญหาการนอนอยู่แล้ว เช่น ผู้ที่เป็นโรคนอนไม่หลับ
- ผู้ที่มีตารางการเดินทางแน่นมาก ไม่มีเวลาพักผ่อนเพียงพอ
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนมากเกินไประหว่างการเดินทาง
- ผู้ที่เดินทางไปทางตะวันออก ซึ่งมักจะรู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าการเดินทางไปทางตะวันตก
วิธีแก้อาการ Jet Lag
ดื่มน้ำให้มาก
การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญมากในการบรรเทาอาการ Jet Lag เนื่องจากการเดินทางบนอากาศมักทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ดังนั้นคุณควรดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น ลดอาการปวดหัว และช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำและรบกวนการนอนหลับ
ปรับเปลี่ยนเวลานอน
การปรับเวลานอนให้เข้ากับเขตเวลาปลายทางล่วงหน้าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดผลกระทบของ Jet Lag ควรเริ่มปรับเวลานอนประมาณ 2-3 วันก่อนการเดินทาง โดยค่อยๆ เลื่อนเวลานอนให้เข้าใกล้กับเวลาของประเทศปลายทางมากขึ้น นอกจากนี้ เมื่อถึงที่หมายแล้ว ควรพยายามตื่นและนอนตามเวลาท้องถิ่นทันที แม้จะรู้สึกง่วงในช่วงกลางวันก็ตาม
ทานยาเมลาโทนิน
เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอนหลับของร่างกาย การรับประทานอาหารเสริมเมลาโทนินอาจช่วยบรรเทาอาการ Jet Lag ได้ โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ เพื่อกำหนดปริมาณและเวลาที่เหมาะสมในการรับประทาน โดยทั่วไปแล้ว การรับประทานเมลาโทนินก่อนนอนตามเวลาท้องถิ่นของประเทศปลายทางจะช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับเวลาใหม่ได้เร็วขึ้น
นอกจากวิธีการข้างต้นแล้ว ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการ Jet Lag ได้ เช่น
- ออกกำลังกายเบาๆ เมื่อถึงที่หมาย เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
- รับแสงแดดในช่วงเช้า เพื่อช่วยปรับนาฬิกาชีวิตให้เข้ากับเวลาท้องถิ่น
- รับประทานอาหารตามเวลาท้องถิ่น เพื่อช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับวงจรใหม่
- พกแว่นกันแดดติดตัวไปด้วย เพื่อช่วยควบคุมการรับแสงในช่วงที่ร่างกายควรจะนอนตามเวลาเดิม
- ใช้เทคนิคผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือการฟังเพลง เพื่อช่วยให้หลับง่ายขึ้นในช่วงที่ปรับตัว
สรุปบทความ
Jet Lag คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ "นาฬิกาชีวภาพ" ในร่างกายเราถูกรบกวนจากการเดินทางข้ามเขตเวลา ส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย และรบกวนจังหวะชีวิตประจำวัน การทำความเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับ Jet Lag จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่การเดินทางที่ราบรื่นและสนุกสนาน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจหรือนักท่องเที่ยว ลองนำเทคนิคที่เราแนะนำไปปรับใช้ จะช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับทุกช่วงเวลาของการเดินทางได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับอาการเหนื่อยล้าหรือปัญหาการนอน
นอกจากนี้ การเตรียมพร้อมด้านสุขภาพก่อนการเดินทางก็เป็นสิ่งสำคัญ ทิพยประกันภัยขอแนะนำให้พิจารณาทำประกันสุขภาพรายปี เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด หากเกิดปัญหาสุขภาพก่อนการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจาก Jet Lag หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอื่นๆ ด้วยการเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและการคุ้มครอง คุณจะสามารถก้าวออกไปค้นพบโลกกว้างได้อย่างมั่นใจและอุ่นใจยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย การทำประกันการเดินทางต่างประเทศ เปรียบเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมดูแลคุณ 24 ชั่วโมง ในทุกสถานการณ์ ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน การเคลื่อนย้ายทางการแพทย์ และค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝัน ประกันการเดินทางไม่เพียงแต่ปกป้องสุขภาพของคุณ แต่ยังปกป้องกระเป๋าเงินของคุณจากค่าใช้จ่ายมหาศาลที่อาจเกิดขึ้น นี่คือการลงทุนเล็กๆ ที่มอบความอุ่นใจอันยิ่งใหญ่ ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับทุกช่วงเวลาแห่งการเดินทางได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น เพราะเราเชื่อว่า การเดินทางที่ดีที่สุดคือการเดินทางที่คุณสามารถปล่อยวางและเพลิดเพลินได้อย่างไร้กังวล