วิธีนอนในรถอย่างปลอดภัย ห่างไกลความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน
26 มิถุนายน 2024
ผู้ชม: 1146 คน

แนะนำทริคนอนในรถให้ปลอดภัย ทั้งต่อร่างกายและทรัพย์สิน

การนอนในรถไม่ใช่เรื่องแปลก ยิ่งสำหรับคนที่ต้องขับรถเป็นเวลานานๆ เป็นการดีที่คุณจะได้หยุดพักเมื่อรู้สึกอ่อนเพลีย แต่หลายคนก็ยังคงนอนในรถแบบผิดวิธี อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ เพราะเมื่อร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้า การงีบหลับในรถแค่ 15 - 20 นาทีก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่ถ้าเผลอหลับนานเกินไป อาจทำให้เกิดผลเสียตามมาได้หลายอย่าง TIPINSURE จะมาเปิดเผยเคล็ดลับการนอนในรถอย่างถูกวิธี ที่จะช่วยให้การเดินทางของคุณปลอดภัยที่ทำตามง่ายๆ มาฝากกัน 

 

ทำไมเปิดแอร์นอนในรถถึงอันตรายมาก

ข่าวการเสียชีวิตจากการนอนในรถที่เปิดแอร์ทิ้งไว้เกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากภาวะขาดออกซิเจน เพราะเมื่อจอดรถและเปิดแอร์ทิ้งไว้เป็นเวลานาน จะทำให้ปริมาณออกซิเจนในอากาศลดลง และถ้าหากหลับไปโดยที่ไม่ได้ลดกระจกหรือเปิดช่องลมไว้ ออกซิเจนในรถจะไม่มีการไหลเวียน ส่งผลทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น จนถึงขั้นที่ร่างกายขาดออกซิเจนในที่สุด

นอกจากนี้ การนอนหลับในรถโดยเปิดแอร์ทิ้งไว้ยังอาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ เกิดเชื้อราและแบคทีเรียภายในได้ ส่งผลเสียต่อสุขภาพระบบทางเดินหายใจ และอาจลุกลามเป็นอาการภูมิแพ้หรือปอดบวมในระยะยาว โดยเฉพาะหากผู้ขับขี่มีโรคประจำตัวหรือสุขภาพไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจรุนแรงกว่าคนปกติหลายเท่า

 

5 เทคนิคนอนในรถให้ปลอดภัย

ถ้าไม่อยากเสี่ยงชีวิตและสุขภาพจากการนอนในรถ ผู้ขับขี่ไม่ควรเปิดแอร์ทิ้งไว้นานเกินไป แต่ควรเลือกวิธีจัดการบรรยากาศภายในรถขณะนอนให้ถูกต้อง ด้วยเทคนิคง่ายๆ ดังนี้

1. ต้องจอดรถในที่ปลอดภัย

ไม่ว่าจะเป็นการนอนในรถระหว่างการเดินทางไกล หรือนอนค้างคืนในรถ สิ่งสำคัญคือการเลือกจุดจอดรถที่ปลอดภัย เพราะถ้าจอดในที่เปลี่ยว ไม่มีไฟส่องสว่าง จะเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมสิ่งของมีค่าหรือรถหายได้ แนะนำให้จอดในพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน หรือจุดจอดรถบริเวณปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมง ที่มีการดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดทั้งคืน รวมถึงเลือกจุดที่สะดวกในการเดินทางต่อ และมีพื้นที่การเข้าออกไม่คับแคบจนเกินไป

2. อย่าลืมปิดแอร์เด็ดขาด

อย่าลืมปิดแอร์ก่อนเข้านอนเด็ดขาด เพราะการเผลอหลับไปโดยที่เปิดแอร์ทิ้งไว้ อาจส่งผลให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นอันตรายที่มองไม่เห็นแต่ร้ายแรงมาก ผู้ขับขี่ต้องเอาใจใส่อย่างยิ่ง และต้องแน่ใจว่าปิดสวิตช์แอร์แล้วก่อนเข้านอนจริงๆ ห้ามประมาทเด็ดขาด

3. ลดกระจกลงเล็กน้อย และเปิดพัดลมจากแอร์

แม้ว่าจะปิดแอร์ตามข้อที่ 2 แต่ถ้าต้องอากาศที่ไหลเวียนเพิ่มขึ้น สามารถลดกระจกลงประมาณ 1 - 2 นิ้ว พร้อมทั้งเปิดพัดลมภายในรถระดับสูงสุด เพื่อให้อากาศถ่ายเทมากขึ้น แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ลดกระจกมากเกินไป จนเป็นช่องทางให้คนร้ายย่องมาขโมยของในรถได้ ส่วนการเปิดพัดลมนั้น นอกจากจะช่วยให้อากาศไหลเวียน ยังทำให้รู้สึกสบายผิวและนอนหลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

4. เช็กให้ชัวร์ว่าล็อกรถแล้ว

ก่อนเข้านอน ต้องกดล็อกประตูรถ รวมถึงตรวจสอบว่าทุกบานปิดสนิทดี ไม่มีช่องว่างให้ผู้ไม่หวังดีแอบย่องเข้ามา นอกจากนี้ ควรนำสิ่งของมีค่าขึ้นมาเก็บไว้ที่เบาะนั่งหรือบริเวณที่เรามองเห็นได้ชัดเจน ไม่วางไว้ข้างนอก ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกขโมย ทั้งนี้ หากเกิดทรัพย์สินสูญหาย ควรตรวจสอบด้วยว่ารถของเราได้ทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้หรือไม่ เพราะถ้ามีความคุ้มครองทรัพย์สินภายในรถ จะช่วยบรรเทาความเสียหายได้ระดับหนึ่ง

5. ตั้งนาฬิกาปลุก 15 - 20 นาที ก่อนงีบหลับ

การงีบหลับในรถควรใช้เวลาเพียง 15 - 20 นาที เพื่อไม่ให้ร่างกายเข้าสู่โหมดหลับลึก แต่ถ้าหากนอนนานเกินไปอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้หลายอย่าง ทั้งอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เป็นตะคริว ความดันโลหิตสูงขึ้น รวมถึงทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น
ดังนั้น ก่อนเข้านอนควรกันตัวเองไว้ก่อน โดยการตั้งนาฬิกาปลุกที่มีเสียงดังชัดเจน และเมื่อตื่นขึ้นมา ควรยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย ก่อนออกขับรถเดินทางต่อไป

 

สรุปบทความ

การนอนในรถอย่างปลอดภัย ไม่ได้เน้นแค่ความเสี่ยงต่อทรัพย์สิน แต่ยังรวมถึงความปลอดภัยของชีวิตและสุขภาพของผู้ขับขี่เองด้วย ทั้งนี้ สิ่งสำคัญสูงสุดในการขับขี่คือความตื่นตัว และความพร้อมของร่างกายและจิตใจ ดังนั้น หากรู้สึกอ่อนเพลียเกินกว่าจะขับรถยนต์ต่อได้ ก็ไม่ควรฝืนเด็ดขาด ควรจอดรถในที่ปลอดภัย เพื่อเข้านอนพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ตามเทคนิคการนอนในรถข้างต้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จะได้เที่ยวให้สนุกและปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน

#Tag: