ถังดับเพลิงมีกี่ประเภท มีวิธีใช้ถังดับเพลิงอย่างไร
15 พฤศจิกายน 2024
ผู้ชม: 20 คน

เรียนรู้วิธีใช้ถังดับเพลิง เพื่อความปลอดภัยเมื่อเกิดเพลิงไหม้

ถังดับเพลิงเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและระงับอัคคีภัยในเบื้องต้น การเรียนรู้วิธีใช้ถังดับเพลิงอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน เพราะเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น การรู้จักวิธีการใช้ถังดับเพลิงอย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมเพลิงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมาก วันนี้ TIPINSURE ขอพาทุกคนไปเรียนรู้การใช้ถังดับเพลิงที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและคนรอบข้าง ติดตามกันได้เลย

 

ความสำคัญของถังดับเพลิง

  1. ป้องกันการลุกลามของเพลิง: ถังดับเพลิงช่วยให้สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามจนควบคุมไม่ได้
  2. ลดความเสียหาย: การใช้ถังดับเพลิงอย่างทันท่วงทีช่วยลดความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิต
  3. เพิ่มเวลาในการอพยพ: ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ การใช้ถังดับเพลิงช่วยชะลอการลุกลามของไฟ ทำให้มีเวลาในการอพยพมากขึ้น
  4. สร้างความมั่นใจ: การมีถังดับเพลิงพร้อมใช้งานช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้อาคาร
  5. ปฏิบัติตามกฎหมาย: การติดตั้งถังดับเพลิงเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายด้านความปลอดภัยในอาคารและสถานประกอบการ
  6. ประหยัดค่าใช้จ่าย: การมีถังดับเพลิงและรู้จักวิธีใช้งานอย่างถูกต้องช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากความเสียหายจากเพลิงไหม้ได้มาก

นอกจากนี้ การมีประกันอัคคีภัยบ้านร่วมด้วยจะช่วยเพิ่มความคุ้มครองและความอุ่นใจให้กับคุณและครอบครัวได้มากยิ่งขึ้น

 

ประเภทของถังดับเพลิงมีอะไรบ้าง

ถังดับเพลิงมีหลายประเภท แต่ละประเภทเหมาะสำหรับดับไฟแต่ละชนิด ดังนั้นการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของไฟจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยประเภทของถังดับเพลิงที่พบบ่อยมี ดังนี้

1.ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง (Dry Chemical)

  • เหมาะสำหรับไฟประเภท A, B และ C
  • ใช้ดับไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงทั่วไป เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า พลาสติก น้ำมัน แก๊ส และอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • มีประสิทธิภาพสูงในการดับไฟ แต่อาจทำให้เกิดคราบสกปรกหลังการใช้งาน

2.ถังดับเพลิงชนิดโฟม (Foam)

  • เหมาะสำหรับไฟประเภท A และ B
  • ใช้ดับไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงทั่วไปและของเหลวติดไฟ เช่น น้ำมัน
  • สร้างชั้นโฟมคลุมผิวเชื้อเพลิง ป้องกันการลุกไหม้ซ้ำ

3.ถังดับเพลิงชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)

  • เหมาะสำหรับไฟประเภท B และ C
  • ใช้ดับไฟที่เกิดจากของเหลวติดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • ไม่ทิ้งคราบสกปรก เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

4.ถังดับเพลิงชนิดน้ำ (Water)

  • เหมาะสำหรับไฟประเภท A
  • ใช้ดับไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงทั่วไป เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า
  • ไม่เหมาะสำหรับใช้กับไฟที่เกิดจากน้ำมันหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า

5.ถังดับเพลิงชนิดฮาโลตรอน (Halotron)

  • เหมาะสำหรับไฟประเภท A, B และ C
  • ใช้ดับไฟได้หลากหลายประเภท รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • ไม่ทิ้งคราบสกปรก แต่มีราคาสูงกว่าถังดับเพลิงประเภทอื่น

6.ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งพิเศษ (Class D Dry Powder)

  • เหมาะสำหรับไฟประเภท D
  • ใช้ดับไฟที่เกิดจากโลหะติดไฟ เช่น แมกนีเซียม โซเดียม ลิเธียม
  • มีความเฉพาะเจาะจงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโลหะเท่านั้น

การเลือกใช้ถังดับเพลิงให้เหมาะสมกับประเภทของไฟและสถานที่ใช้งานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดับเพลิงและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

 

วิธีใช้ถังดับเพลิง

ก่อนที่จะเรียนรู้ขั้นตอนการใช้งานโดยละเอียด มีสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงก่อน ดังนี้

ติดตั้งในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย

  1. ความสะดวกในการเข้าถึง: ติดตั้งในตำแหน่งที่สามารถเห็นได้ชัดเจนและเข้าถึงได้ง่าย เช่น ใกล้ทางเข้า-ออก หรือบริเวณที่มีการสัญจรบ่อย
  2. ระยะห่างที่เหมาะสม: ติดตั้งให้มีระยะห่างระหว่างถังดับเพลิงแต่ละจุดไม่เกิน 20-25 เมตร เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทันท่วงทีไม่ว่าจะเกิดเพลิงไหม้ ณ จุดใดในอาคาร
  3. ความสูงในการติดตั้ง: ติดตั้งที่ความสูงประมาณ 1-1.5 เมตรจากพื้น เพื่อให้สามารถหยิบใช้ได้สะดวก
  4. ป้ายบอกตำแหน่ง: ติดป้ายบอกตำแหน่งถังดับเพลิงให้ชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางสายตา
  5. หลีกเลี่ยงจุดเสี่ยง: ไม่ควรติดตั้งใกล้แหล่งความร้อนหรือเชื้อเพลิง เพื่อป้องกันความเสียหายต่อถังดับเพลิงเอง
  6. พื้นที่โล่ง: ติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อให้สามารถหยิบใช้ได้โดยสะดวก

การติดตั้งถังดับเพลิงอย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกเมื่อเกิดเหตุ แต่ยังเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอีกด้วย

ตรวจสอบสภาพของถังดับเพลิงก่อนใช้งาน

ก่อนใช้งานถังดับเพลิง ควรตรวจสอบสภาพของถังให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยมีจุดสำคัญที่ควรตรวจสอบดังนี้

  1. เข็มชี้แรงดัน: ตรวจดูว่าเข็มชี้แรงดันอยู่ในช่วงสีเขียว ซึ่งแสดงถึงแรงดันที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
  2. สภาพภายนอก: ตรวจสอบว่าถังไม่มีรอยบุบ สนิม หรือความเสียหายอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน
  3. สายฉีดและหัวฉีด: ตรวจสอบว่าสายฉีดและหัวฉีดอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยแตกหรือชำรุด
  4. สลักนิรภัย: ตรวจดูว่าสลักนิรภัยยังอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและไม่ชำรุด
  5. วันหมดอายุ: ตรวจสอบวันหมดอายุของถังดับเพลิง ซึ่งโดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-15 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของถัง
  6. ความสะอาด: ตรวจสอบว่าถังดับเพลิงสะอาด ไม่มีฝุ่นหรือคราบสกปรกที่อาจรบกวนการทำงาน
  7. น้ำหนัก: ยกถังดับเพลิงเพื่อประเมินน้ำหนัก หากรู้สึกว่าเบาผิดปกติ อาจหมายถึงสารดับเพลิงรั่วไหล

 

ขั้นตอนการใช้ถังดับเพลิง

ขั้นตอนการใช้ถังดับเพลิงที่ถูกต้องมี ดังนี้

1. ยืนอยู่เหนือลม

ก่อนเริ่มดับไฟ ให้สังเกตทิศทางลมและยืนในตำแหน่งที่ลมพัดเข้าหาไฟ (ยืนเหนือลม) เพื่อป้องกันไม่ให้ควันและเปลวไฟพุ่งเข้าหาตัวคุณ การยืนเหนือลมมีความสำคัญดังนี้

  • ช่วยให้มองเห็นจุดต้นเพลิงได้ชัดเจน
  • ป้องกันการสูดดมควันพิษ
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการฉีดสารดับเพลิงไปยังฐานของไฟ

2. ดึงสลักออก

ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมถังดับเพลิงให้พร้อมใช้งาน

  1. จับถังดับเพลิงให้มั่นคง
  2. ค้นหาสลักนิรภัยซึ่งมักอยู่บริเวณด้ามจับหรือคันบีบ
  3. ดึงสลักออกอย่างระมัดระวัง โดยอาจต้องออกแรงเล็กน้อย
  4. ทิ้งสลักไว้ใกล้ๆ เผื่อกรณีที่ต้องการเก็บถังกลับเข้าที่หลังใช้งาน

3. ฉีดที่ฐานของไฟ

เมื่อถังดับเพลิงพร้อมใช้งาน ให้เล็งหัวฉีดไปที่ฐานของไฟ ไม่ใช่ที่เปลวไฟ เพราะการฉีดที่ฐานของไฟจะช่วยกำจัดแหล่งเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ยืนห่างจากไฟประมาณ 2-3 เมตร หรือตามที่ระบุบนถังดับเพลิง
  • เล็งหัวฉีดต่ำลงไปที่ฐานของไฟ
  • หากเป็นไฟที่ลุกไหม้บนผนังหรือเพดาน ให้เริ่มฉีดจากด้านล่างขึ้นบน

4. เปิดวาล์วน้ำยา

เมื่อเล็งหัวฉีดไปที่ฐานของไฟแล้ว ให้เปิดวาล์วน้ำยาเพื่อปล่อยสารดับเพลิงออกมา

  1. จับด้ามถังดับเพลิงให้มั่นคงด้วยมือข้างหนึ่ง
  2. ใช้มืออีกข้างบีบคันโยกหรือกดปุ่มที่ด้ามจับเพื่อปล่อยสารดับเพลิง
  3. ควบคุมแรงดันในการฉีดโดยการบีบหรือปล่อยคันโยกตามความเหมาะสม

5. สายหัวฉีดจนไฟดับ

ขณะฉีดสารดับเพลิง ให้เคลื่อนหัวฉีดไปมาในลักษณะส่ายไปมา เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ไฟไหม้ทั้งหมด

  • ใช้การเคลื่อนไหวแบบกวาดจากซ้ายไปขวาหรือจากขวาไปซ้าย
  • ฉีดอย่างต่อเนื่องจนกว่าไฟจะดับสนิท
  • หากไฟลุกขึ้นมาอีก ให้ฉีดซ้ำที่จุดนั้นทันที
  • ระวังการเกิดไฟลุกไหม้ซ้ำ โดยเฉพาะในกรณีของเชื้อเพลิงประเภทของเหลว

เมื่อไฟดับแล้ว ให้สังเกตอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าไฟดับสนิทจริงๆ และไม่มีการลุกไหม้ซ้ำ หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจ ให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทันที

 

สรุปบทความ

การเรียนรู้และฝึกฝนวิธีการใช้ถังดับเพลิงเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรมี นอกจากนี้ การมีประกันอัคคีภัยบ้านยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจและความคุ้มครองให้กับทรัพย์สินของคุณ โดยคุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันอัคคีภัยบ้านได้จากเว็บไซต์ของทิพยประกันภัย

เพราะความปลอดภัยของเราและคนรอบข้างขึ้นอยู่กับความพร้อมของเราในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนั้น ขอให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะนี้ เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยและพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

#Tag: