แนะวิธีแจ้งความออนไลน์ ง่าย ๆ ไม่ต้องไปโรงพัก
26 มิถุนายน 2024
ผู้ชม: 840 คน

แจ้งความออนไลน์ ง่ายๆ ไม่ต้องไปโรงพัก

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น ภารกิจหลายอย่างสามารถทำผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมถึงเรื่องของการแจ้งความ ที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพักให้เสียเวลาอีกต่อไป เพราะตอนนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พัฒนาระบบ "แจ้งความออนไลน์" ขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถแจ้งความได้ด้วยตนเองผ่านอินเทอร์เน็ต

วันนี้ TIPINSURE จะมาแนะนำวิธีแจ้งความออนไลน์อย่างละเอียด ตั้งแต่การลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ การเตรียมเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนและวิธีการกรอกแบบฟอร์มแจ้งความ ไปจนถึงการเลือกประเภทคดีที่สามารถแจ้งผ่านระบบออนไลน์ได้ เพื่อให้ทุกท่านสามารถใช้บริการนี้ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

แจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ไหน

ปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พัฒนาเว็บไซต์ "ระบบแจ้งความออนไลน์" ขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถแจ้งความได้ด้วยตนเองผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพัก ระบบนี้พัฒนาขึ้นภายใต้โครงการ "Police 4.0" ที่มีการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน

โดยคุณสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ https://thaipoliceonline.go.th/ ซึ่งรองรับทั้งการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟน ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ iOS, Android หรือ Windows ก็สามารถแจ้งความได้ทันที เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อ ก็สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้จากทุกที่ทุกเวลา 

นอกจากความสะดวกรวดเร็วแล้ว ระบบแจ้งความออนไลน์ยังช่วยลดขั้นตอน และระยะเวลาในการเดินทางไปโรงพัก ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ตรวจสอบตัวตนผู้ใช้งานอย่างละเอียด และมีการเข้ารหัสข้อมูล จึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลของเราจะไม่ตกไปอยู่ในมือคนร้ายอย่างแน่นอน

วิธีลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์

ก่อนใช้งานระบบแจ้งความออนไลน์ จะต้องทำการลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าเว็บไซต์ https://thaipoliceonline.go.th/ แล้วกดปุ่ม "ลงทะเบียน" ที่มุมขวาบนของหน้าเว็บ
  2. กรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น โดยข้อมูลเหล่านี้จะต้องเป็นข้อมูลจริงตามบัตรประชาชนเท่านั้น
  3. อัพโหลดไฟล์รูปถ่ายบัตรประชาชน และรูปถ่ายใบหน้าแบบเต็มหน้าตรง ไม่สวมแว่นตาดำ หรือหมวก โดยรูปต้องชัดเจน เห็นใบหน้าชัดเจน ขนาดไม่เกิน 3MB และเป็นไฟล์ .jpg หรือ .png เท่านั้น
  4. ตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้งานระบบ โดยจะต้องมีความยาว 8 - 16 ตัวอักษร ประกอบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก ตัวเลข และอักขระพิเศษ อย่างน้อย 1 ตัว จากนั้นยืนยันรหัสผ่านอีกครั้ง
  5. กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ แล้วคลิกปุ่ม "ลงทะเบียน" ระบบจะส่งลิงก์ยืนยันตัวตนไปที่อีเมลที่ลงทะเบียนไว้
  6. เข้าไปที่อีเมลของเรา เปิดอีเมลยืนยันตัวตนจากระบบ แล้วคลิกลิงก์ที่แนบมาในอีเมล เพื่อยืนยันการเปิดใช้งานบัญชีผู้ใช้

เมื่อลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว เราก็จะสามารถล็อกอินเข้าสู่ระบบด้วยอีเมลและรหัสผ่านที่ตั้งไว้ เพื่อเริ่มแจ้งความออนไลน์ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพักอีกต่อไป ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างมาก

 

แจ้งความออนไลน์ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ก่อนแจ้งความออนไลน์ สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมข้อมูลและเอกสารหลักฐานให้พร้อม เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ ลดความผิดพลาดของข้อมูล และเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งข้อมูลและเอกสารที่ควรเตรียมไว้ ประกอบด้วย

  • เอกสารแสดงตัวตน ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง บัตรข้าราชการ หรือบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งต้องเป็นบัตรจริงที่ยังไม่หมดอายุ และมีรูปถ่ายชัดเจน
  • เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ต้องการแจ้งความ เช่น ภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุ ภาพความเสียหายของทรัพย์สิน ใบเสร็จค่าเสียหาย บันทึกข้อความจากพยาน หรือหลักฐานอื่นๆ ที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าใจเหตุการณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ข้อมูลรายละเอียดของเหตุการณ์ ได้แก่ วันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ ลักษณะการกระทำความผิด บุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้เสียหาย ผู้กระทำความผิด หรือพยาน เป็นต้น โดยควรบันทึกข้อมูลเหล่านี้ไว้ให้ครบถ้วน เพื่อความรวดเร็วในการแจ้งความ
  • เอกสารเพิ่มเติมอื่นๆ ที่อาจมีความจำเป็น ขึ้นอยู่กับประเภทคดีที่แจ้งความ เช่น ในกรณีแจ้งความบัตรประชาชนหาย อาจต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้าน, ในกรณีโจรกรรมรถยนต์ อาจต้องใช้คู่มือจดทะเบียนรถและประกันรถยนต์ชั้น 1 (หากมี) เป็นต้น

ซึ่งหากไม่แน่ใจว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง สามารถดูรายละเอียดได้จากคู่มือประชาชนในเว็บไซต์ หรือสอบถามเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในขั้นตอนการแจ้งความออนไลน์ได้ โดยระบบจะมีช่องทางให้สอบถามและให้คำปรึกษาระหว่างการแจ้งความด้วย

ทั้งนี้ การเตรียมเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน จะช่วยให้การดำเนินการเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็ว ข้อมูลมีความถูกต้องแม่นยำ และไม่ต้องเสียเวลากลับไปหาเอกสารเพิ่มเติมอีก ทำให้เราประหยัดเวลาและพลังงานได้มากทีเดียว

 

ขั้นตอนการแจ้งความออนไลน์

เมื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบและเตรียมเอกสารหลักฐานพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มแจ้งความออนไลน์ ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. ล็อกอินเข้าสู่ระบบด้วยอีเมลและรหัสผ่านที่ได้ลงทะเบียนไว้
  2. เลือกเมนู "แจ้งความออนไลน์" ที่หน้าแรกของเว็บไซต์
  3. เลือกประเภทเรื่องที่ต้องการแจ้งความ เช่น แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย, ร้องทุกข์กล่าวโทษ, แจ้งเบาะแสอาชญากรรม, แจ้งข้อมูลหาย เป็นต้น
  4. กรอกรายละเอียดของเหตุการณ์ลงในแบบฟอร์มออนไลน์ ตามหัวข้อที่กำหนด เช่น

4.1. วันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ
4.2. ลักษณะการกระทำความผิดโดยสรุป
4.3. ชื่อ-สกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ของผู้เสียหาย ผู้กระทำความผิด และพยาน (ถ้ามี)
4.4. รายละเอียดทรัพย์สินที่สูญหายหรือได้รับความเสียหาย
4.5. จำนวนค่าเสียหายโดยประมาณ

  1. แนบไฟล์เอกสารหลักฐาน เช่น ภาพถ่าย ภาพวิดีโอ ไฟล์เอกสาร โดยขนาดรวมกันต้องไม่เกิน 10MB
  2. ตรวจทานข้อมูลทั้งหมดให้ถูกต้อง ครบถ้วน แล้วกดปุ่ม "ส่งคำร้อง"
  3. ระบบจะแสดงข้อความยืนยันการรับเรื่องร้องเรียน พร้อมเลขที่แจ้งความ และช่องทางติดตามสถานะ
  4. เราสามารถพิมพ์หรือบันทึกไฟล์ใบแจ้งความจากระบบ เพื่อเป็นหลักฐานไว้อ้างอิง

หลังจากแจ้งความเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบและพิจารณาคำร้อง ก่อนดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป โดยจะติดต่อกลับมาทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลที่ให้ไว้ เพื่อแจ้งความคืบหน้าหรือขอข้อมูลเพิ่มเติม ในบางกรณีที่มีความจำเป็น อาจมีการนัดให้เราไปพบเจ้าหน้าที่ที่โรงพัก เพื่อให้ปากคำหรือดำเนินการอื่นๆ เพิ่มเติมได้

อย่างไรก็ตาม ตลอดกระบวนการแจ้งความและติดตามคดี เราสามารถสอบถามหรือให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลา ทั้งทางช่องแชทหรืออีเมล พร้อมทั้งยังสามารถติดตามสถานะของคดีได้ด้วยตนเอง ผ่านเมนู "ติดตามสถานะ" ในเว็บไซต์ ซึ่งจะแสดงความคืบหน้าของทางคดีในแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด ทำให้เราสามารถวางแผนและบริหารจัดการเวลาได้ดียิ่งขึ้น

 

คดีไหนแจ้งความออนไลน์ได้บ้าง

ปัจจุบัน ระบบแจ้งความออนไลน์สามารถรับแจ้งคดีอาญาทั่วไปเกือบทุกประเภท แต่ยังมีข้อจำกัดสำหรับบางคดีที่มีความซับซ้อนหรือร้ายแรง ที่จำเป็นต้องแจ้งความกับพนักงานสอบสวนโดยตรงที่โรงพัก ซึ่งคดีที่สามารถแจ้งผ่านระบบออนไลน์ได้ เช่น

  • คดีทรัพย์ เช่น ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง โกงเจ้าหนี้ ยักยอก และรับของโจร
  • คดีเอกสาร เช่น ปลอมแปลงเอกสาร ใช้เอกสารปลอม แจ้งความเท็จ เบิกความเท็จ และทำพยานเอกสารเท็จ
  • คดีเกี่ยวกับชื่อเสียง เช่น หมิ่นประมาท ดูหมิ่น และทำให้เสียชื่อเสียง
  • คดีเกี่ยวกับทรัพย์สิน เช่น ทำให้เสียทรัพย์ บุกรุก และโกงที่ดิน
  • คดีคอมพิวเตอร์ เช่น นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เผยแพร่ภาพลามก และแฮกข้อมูลผู้อื่น
  • คดีจราจร เช่น ขับรถประมาท หลบหนีไม่ยอมหยุด และไม่มีใบขับขี่
  • คดีอื่นๆ ที่มีโทษปรับหรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี เช่น พนันการพนัน จำหน่ายสลากกินแบ่งเกินราคา และครอบครองอาวุธปืน

อย่างไรก็ตาม คดีที่มีความรุนแรง ซับซ้อน หรือมีโทษสูง เช่น คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน คดีฆาตกรรม คดีก่อการร้าย หรือคดียาเสพติด ยังคงจำเป็นต้องแจ้งความด้วยตนเองที่โรงพัก เนื่องจากต้องมีการสอบปากคำ รวบรวมหลักฐาน ตรวจสถานที่เกิดเหตุ หรือออกหมายจับ ซึ่งไม่สามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้ครบถ้วน

อีกทั้งในบางกรณี แม้จะไม่ใช่คดีร้ายแรง แต่อาจต้องการหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น การพิสูจน์ลายนิ้วมือ DNA หรือการตรวจสารพิษ ซึ่งจำเป็นต้องเก็บตัวอย่างโดยผู้เชี่ยวชาญ ก็ไม่สามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้เช่นกัน แต่หลังจากเก็บหลักฐานแล้ว สามารถดำเนินการส่วนอื่นๆ ผ่านระบบต่อได้

 

สรุปบทความ

การแจ้งความเป็นขั้นตอนสำคัญในการดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยากและเสียเวลา จนบางครั้งถึงขั้นไม่อยากไปแจ้งความด้วยซ้ำ แต่ในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การแจ้งความออนไลน์กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเวลาและสถานที่
อย่างไรก็ตาม ระบบแจ้งความออนไลน์ยังเป็นเพียงช่องทางเสริมเท่านั้น ในคดีที่มีความซับซ้อนหรือรุนแรงบางประเภท ยังคงจำเป็นต้องไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่โรงพักอยู่ดี เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่สำหรับคดีทั่วไปที่มีมูลค่าความเสียหายไม่มาก ใช้หลักฐานไม่ซับซ้อน การแจ้งความออนไลน์ก็นับเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อช่วยให้กระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายนั่นเอง

#Tag: