น้ำท่วมบ้านนน ต้องซื้อประกันบ้านแบบไหนถึงจะคุ้มครองได้
เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน หลายพื้นที่ที่พาดหัวข่าวตามสื่อต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน บางคนถึงกับน้ำตาตกกันบ้านที่ตัวเองสร้างมาเสียหายเพราะน้ำท่วมหนัก จนหลายคนเป็นกังวลว่าถ้าเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดกับบ้านตัวเอง จะรับมือกับความเสียหายนั้นอย่างไรดี
“ประกันบ้าน” จึงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนพูดถึงในสถานการณ์นี้ เพราะรู้มาว่าจะสามารถช่วยคุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วมบ้านได้ แต่จะมีหลักประกันบ้านแผนไหนบ้าง ที่มาช่วยบรรเทาภาระเหล่านั้นได้บ้าง และประกันที่ซื้อไว้แล้วจะใช้ได้ไหม? วันนี้ TIPINSURE มาไขข้อสงสัยประกันแบบไหนคุ้มครองได้แบบชัวร์ๆ เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจทำประกันบ้านได้ง่ายขึ้น
เลือกประกันแบบไหน ถึงครอบคลุมน้ำท่วม
ประกันบ้านจริงๆ แล้ว ไม่ได้คุ้มครองแค่ไฟไหม้อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ยังคุ้มครองไปถึงภัยธรรมชาติ ตามรายละเอียดในกรมธรรม์โดยจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และยังคุ้มครองเรื่องการถูกโจรกรรมทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้างอีกด้วย
คุ้มครองอัคคีภัย
ประกันอัคคีภัยจะคุ้มครองครอบคลุมสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า หรืออุบัติเหตุอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดไฟไหม้ และยังคุ้มครองทรัพย์สินภายในบ้านที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟไหม้ หรือจากน้ำและสิ่งอื่นใดที่ใช้ในการดับเพลิง ที่ได้รับความเสียหาย บริษัทประกันจะจ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ให้กับเจ้าของบ้านโดยตรง เว้นแต่กรณีบ้านติดจำนอง ธนาคารจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์แทน
และอย่างที่หลายคนเข้าใจว่าประกันอัคคีภัยคุ้มครองแค่ไฟไหม้ แต่จริงๆ แล้วคุ้มครองไปถึงภัยธรรมชาติอย่างภัยน้ำท่วมด้วย จะชดเชยค่าเสียหายจากภัยธรรมชาติ 10% ของทุนประกันภัย (สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี) แต่ถ้ารู้สึกว่าน้อยเกินไป ก็สามารถซื้อความคุ้มครองภัยน้ำท่วมเพิ่มเติมจากประกันหลักได้ ซึ่งวงเงินเอาประกันก็จะสูงขึ้น แต่ก็อาจต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ทำไมต้องเป็นประกันอัคคีภัย
ประกันอัคคีภัยส่วนใหญ่รวมความคุ้มครองภัยน้ำท่วมไว้ในประกันหลักแล้ว ทำให้ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ประกันจะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้าน สิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินภายในบ้าน ตามแผนประกันที่คุณเลือกไว้ ซึ่งจะแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายไปได้ จึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมต้องซื้อประกันอัคคีภัยนั่นเอง
ควรทำประกันอัคคีภัยราคาเท่าไหร่
ไม่ควรทำประกันอัคคีภัยต่ำกว่า 70% ของมูลค่าทรัพย์สิน ถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างครอบคลุมความเสียหายส่วนใหญ่ได้ดี รวมถึงคุณจะต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มเพียง 30% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
ยกตัวอย่าง บ้านคุณได้รับความเสียหายทั้งหลัง โดยบ้านมีมูลค่า 3 ล้านบาท เลือกคุ้มครองเพียงแค่ 50% จะได้รับค่าสินไหมทดแทน เพียงแค่ 1.5 ล้านบาท แต่หากคุณเลือกคุ้มครอง 70% ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนมากยิ่งขึ้น
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เอาประกันภัยแต่ละคนว่ามีความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันมากน้อยแค่ไหนเพราะเป็นแค่หลักการเบื้องต้นที่บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่แนะนำมาให้เท่านั้น
ทำไมต้องซื้อประกันอัคคีภัยกับ TIPINSURE ?
ประกันบ้าน บ้านทิพยยิ้มได้พลัส ประกันอัคคีภัยบ้านที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ความคุ้มครองบ้านที่รักของคุณ เป็นแผนประกันที่ถูกออกแบบให้ครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเหตุการณ์ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ภัยธรรมชาติ ภัยจากการเฉี่ยว/ชนของยานพาหนะ โดยชดเชยตามความเสียหายจริงที่ไม่เกินทุนประกันภัย ชดเชยค่าเช่าที่อยู่อาศัยชั่วคราวได้สูงสุดไม่เกินวันละ 1,000 บาท (ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี) รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
ในส่วนเรื่องของภัยธรรมชาติอย่างเหตุการณ์น้ำท่วม แผนบ้านทิพยยิ้มได้พลัส ก็ให้ความคุ้มครองเพิ่มอีก จะได้รับความชดเชย 10% ของทุนประกันภัย (สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี) รวมถึงลมพายุ ลูกเห็บ แผ่นดินไหว หรือคลื่นใต้น้ำ หรือสึนามิ จะได้รับการชดเชยถึง 30% ของทุนประกันภัยต่อภัย
และยิ่งไปกว่านั้นยังชดเชยกรณีไฟดับ การถูกโจรกรรม หรือกรณีเกิดเหตุจนต้องรื้อถอน ขนย้ายก็ชดเชยถึง 10% ของทุนประกันภัย เรียกว่าได้ว่าเป็นประกันที่อยู่อาศัยอย่างครอบคลุมทุกความกังวลอย่างแท้จริง
ประกันอัคคีภัยบ้านจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับประกันบ้านน้ำท่วม ซื้อติดบ้านไว้สักกรมธรรม์คุ้มครองครบจบทุกภัย วางแผนเรื่องหนักกับสารพัดค่าใช้จ่ายที่ตามมาไม่รู้จบให้กลายเป็นเบาได้ กับประกันบ้านทิพยยิ้มได้พลัส สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736