ไขปัญหารถไฟฟ้า ลุยน้ำได้ไหม อันตรายหรือไม่มาดูกัน
21 สิงหาคม 2024
ผู้ชม: 76 คน

ไขข้อสงสัย รถไฟฟ้าลุยฝนและน้ำท่วมได้ไหม

รถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV (Electric Vehicle) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ด้วยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้หลายคนหันมาสนใจรถพลังงานสะอาดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ยังค่อนข้างใหม่สำหรับผู้ใช้รถในบ้านเรา จึงมีคำถามและข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการใช้งานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝนหรือเมื่อเกิดน้ำท่วมขึ้น บทความนี้ TIPINSURE จะไขข้อข้องใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถไฟฟ้าเมื่อต้องเผชิญกับน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ฝนตกหนักหรือน้ำท่วมขัง พร้อมให้คำแนะนำก่อนตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้า EV กัน

 

รถไฟฟ้าโดนน้ำได้ไหม

หลายคนอาจกังวลว่ารถไฟฟ้าจะเกิดปัญหาเมื่อโดนน้ำ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำและไฟฟ้าไม่ใช่ของคู่กัน แต่ความจริงแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV นั้นได้รับการออกแบบและพัฒนามาอย่างดีเพื่อให้สามารถทนต่อสภาพอากาศต่างๆ รวมถึงฝนและน้ำได้ในระดับหนึ่ง

ส่วนประกอบสำคัญของรถไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ แบตเตอรี่ และระบบไฟฟ้า ได้รับการปกป้องด้วยฉนวนไฟฟ้าคุณภาพสูง ทำให้น้ำไม่สามารถเข้าถึงชิ้นส่วนเหล่านี้ได้โดยง่าย นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันไฟฟ้ารั่วและการลัดวงจร ซึ่งจะตัดการทำงานของระบบไฟฟ้าทันทีหากตรวจพบความผิดปกติ

ข้อมูลจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำระบุว่า รถ EV สามารถใช้งานได้ตามปกติแม้ในสภาพอากาศที่มีฝนตก โดยมอเตอร์และแบตเตอรี่จะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำฝนทั่วไป ดังนั้น คุณสามารถขับรถไฟฟ้าในวันที่ฝนตกได้อย่างสบายใจ เช่นเดียวกับรถยนต์น้ำมัน

 

รถไฟฟ้าลุยฝนและน้ำท่วมได้ไหม

แม้ว่ารถไฟฟ้าจะสามารถทนต่อน้ำได้ในระดับหนึ่ง แต่การลุยน้ำท่วมขังลึกอาจเป็นอันตรายได้ เช่นเดียวกับรถยนต์น้ำมัน เพราะการขับรถลุยน้ำลึกอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบต่างๆ ของรถได้

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ได้ทำการทดสอบและรับประกันว่ารถสามารถทนน้ำลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร เป็นเวลาไม่เกิน 30 นาที โดยน้ำจะไม่สามารถเข้าไปถึงแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้าสำคัญได้ ทั้งนี้เนื่องจากระบบในรถได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีด้วยมาตรฐาน IP Rating หรือ Ingress Protection ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานในการป้องกันของแข็งและของเหลวเล็ดลอดเข้าภายในตัวรถ

โดยทั่วไป รถยนต์ไฟฟ้าจะมีค่า IP Rating อยู่ที่ IP67 ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์และสามารถทนต่อการแช่น้ำที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที อย่างไรก็ตาม ค่า IP Rating อาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและแบรนด์ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลจากคู่มือการใช้งานหรือสอบถามจากศูนย์บริการโดยตรง

แม้ว่ารถไฟฟ้าจะมีระบบป้องกันน้ำที่ดี แต่การขับลุยน้ำลึกก็ยังคงมีความเสี่ยง น้ำอาจเข้าไปสร้างความเสียหายให้กับระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเบรก หรือส่วนประกอบอื่นๆ ของรถได้ ดังนั้น หากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับลุยน้ำลึกหากไม่จำเป็น

 

รถไฟฟ้าชาร์จตอนฝนตกได้ไหม

อีกหนึ่งคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถไฟฟ้าคือ การชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่ฝนตกจะปลอดภัยหรือไม่ คำตอบคือ การชาร์จรถไฟฟ้าในขณะฝนตกสามารถทำได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากแท่นชาร์จและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้รับการออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศต่างๆ ได้

แท่นชาร์จสาธารณะส่วนใหญ่มีระบบป้องกันน้ำและความชื้น รวมถึงมีการติดตั้งระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อตรวจพบความผิดปกติ นอกจากนี้ ตัวรถเองก็มีระบบป้องกันไฟฟ้ารั่วและการลัดวงจรเช่นกัน ทำให้การชาร์จในขณะฝนตกมีความปลอดภัยอย่าแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เมื่อต้องชาร์จรถในขณะฝนตก ผู้ใช้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

  1. ตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ชาร์จ สายชาร์จ และเต้ารับว่าอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยแตกหรือชำรุด
  2. เช็ดทำความสะอาดจุดเชื่อมต่อให้แห้งก่อนเสียบปลั๊กชาร์จ
  3. หากเป็นไปได้ ควรเลือกใช้สถานีชาร์จที่มีหลังคาหรือที่กำบังฝน
  4. ไม่ควรชาร์จในบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง
  5. หากรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือพบความผิดปกติใดๆ ให้หยุดการชาร์จทันที

 

เมื่อรู้ว่าต้องลุยน้ำ ขับอย่างไรให้ปลอดภัย

แม้ว่าการหลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่บางครั้งเราอาจจำเป็นต้องขับผ่านน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนหรือเมื่อเกิดน้ำท่วมฉับพลัน หากจำเป็นต้องขับรถไฟฟ้าผ่านน้ำท่วมขัง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อความปลอดภัยต่อรถของคุณ

  • ลดความเร็วลงและขับอย่างระมัดระวัง
  • หลีกเลี่ยงการขับผ่านน้ำที่ลึกเกิน 30 เซนติเมตร
  • รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น
  • ปิดระบบปรับอากาศเพื่อป้องกันน้ำเข้าสู่ห้องโดยสาร
  • หลังจากผ่านน้ำท่วมขัง ให้เหยียบเบรกเบาๆ หลายครั้งเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก
  • เมื่อถึงที่หมาย อย่าดับเครื่องยนต์ทันที ให้เดินเครื่องต่อไปสักครู่เพื่อระบายน้ำออกจากระบบ

 

สรุปบทความ

รถไฟฟ้าสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยในสภาพอากาศที่มีฝนตกและน้ำท่วมขังเล็กน้อย แต่ควรหลีกเลี่ยงการขับลุยน้ำลึกเกินไป การปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยและใช้ความระมัดระวังในการขับขี่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อความเสียหายและอันตรายได้ นอกจากนี้ การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สำหรับรถไฟฟ้าจะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองในกรณีที่เกิดความเสียหายจากน้ำท่วมหรืออุบัติเหตุอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันรถยนต์ EV ให้ดีก่อนตัดสินใจทำประกัน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมกับการใช้งานรถไฟฟ้าของคุณ

#Tag: