จะเติมลมยางทั้งทีแต่ เติมลมแบบไนโตรเจน VS เติมลมธรรมดา ดีกว่ากัน
30 กันยายน 2024
ผู้ชม: 560 คน

จะเติมลมยางทั้งทีแต่ เติมลมแบบไนโตรเจน VS เติมลมธรรมดา ดีกว่ากัน


เติมลมยางควรเติมแบบไหนดี? หลายคนยังคงสงสัยยิ่งเฉพาะผู้ใช้รถมือใหม่ "เติมลมไนโตรเจนหรือลมธรรมดา" แบบไหนดีกว่ากัน แม้ในปัจจุบันการเติมลมไนโตรเจนกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ขับขี่หลายคน แต่มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย และจะแตกต่างจากการเติมลมธรรมดามากน้อยแค่ไหนนะ TIPNISURE หาคำตอบมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจสำหรับการเติมลมยางให้กับรถของคุณแล้ว

 

เติมลมไนโตรเจน

ลมยางไนโตรเจน  ลมที่คัดออกซิเจนและความชื้นออกไป และเหลือไว้เพียงไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบด้วยไนโตรเจนมากกว่า 93% ที่มีไอน้ำปะปนอยู่น้อยมาก หรือเรียกได้ว่าแทบไม่มีอยู่เลย และการเติมลมแบบไนโตรเจนยังช่วยในเรื่องอื่นๆ อีกด้วย

ข้อดีของการเติมลมไนโตรเจน

  • ลมยางไนโตรเจนจะกัดกร่อนยางรถยนต์น้อยกว่าลมยางธรรมดา
  • ช่วยรักษาแรงดันลมยางให้คงที่ แรงดันในยางรถยนต์อยู่ได้นานกว่าปกติ ไม่ว่าจะหนาวหรือวิ่งจนยางร้อน แรงดันลมก็ยังคงเสถียรและไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และมีโอกาสน้อยมากที่ยางจะระเบิด
  • ลดการเกิดสนิมที่ล้อกระทะ ลมยางไนโตรเจนเป็นก๊าซแห้ง ไม่มีส่วนผสมของน้ำ ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดสนิมที่ล้อกระทะจึงมีน้อย
  • ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น แรงดันลมยางที่เสถียรและสมดุลจะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงที่เกินเหตุได้
  • ขับขี่ได้นุ่มนวลมากขึ้น ลดการเกิดเสียงของยางรถยนต์ที่กระแทกกับพื้น และตะเข็บรอยต่อถนน
  • ช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากกว่าการเติมลมยางแบบธรรมดา

 

ข้อเสียของการเติมลมไนโตรเจน

  • การเติมลมไนโตรเจนมีค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณล้อละ 25 - 50 บาท ตกแล้วก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ100 - 200 บาท สำหรับการเติมลมหนึ่งครั้ง แต่ว่าการเติมลมไนโตรเจนสามารถอยู่ได้ถึง 5-6 เดือน ตามมาตรฐาน
  • สถานที่ให้บริการยังไม่ทั่วถึงเท่ากับสถานที่เติมลมธรรมดาที่สามารถเจอตามปั๊มน้ำมันทั่วไปได้ การเติมลมไนโตรเจนต้องเติมที่อู่หรือศูนย์บริการเท่านั้น

 

เติมลมยางธรรมดา

ลมยางธรรมดา ประกอบไปด้วยไนโตรเจน 78% และออกซิเจน 21% ส่วนที่เหลือจะเป็นไอน้ำปะปนอยู่รวมถึงก๊าซต่างๆ

ข้อดีของการเติมลมธรรมดา

  • หาแหล่งเติมได้ง่าย ในสถานีเติมน้ำมันทั่วไป ยังสามารถกำหนดแรงดันได้ โดยมีการบอกวิธีการเติมเบื้องต้นให้
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเติมลมยาง

 

ข้อเสียของการเติมลมธรรมดา

  • ลมธรรมดาจะมีการขยายตัวได้มากกว่า เมื่อใช้ไปนานๆ อุณหภูมิความร้อนเพิ่มขึ้น มีโอกาสระเบิดได้มากกว่า
  • ลมธรรมดาประกอบไปด้วยความชื้น ออกซิเจน ปะปนอยู่รวมถึงก๊าซต่างๆ ทำให้เกิดการสึกกร่อนและการเสื่อมสภาพของยางรถเมื่อทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน

 

สามารถเติมไนโตรเจน ผสม ลมธรรมดาได้หรือไม่?

การเติมลมผสมกัน ไม่ได้ส่งผลเสียต่อยางของคุณและไม่ได้เกิดอันตราย แต่เมื่อเติมไนโตรเจน ผสมลมธรรมดา ลมไนโตรเจนจะเจือจางและลดประสิทธิภาพลงจนกลายเป็นลมยางธรรมดา หรือแนะนำควรปล่อยลมของเก่าออกให้หมดก่อน แล้วค่อยเติมลมไนโตรเจนเข้าไป และการเติมลมครั้งต่อไป ก็ควรเติมแต่ลมไนโตรเจนเท่านั้น 


นอกจากการเติมลมยางก็แล้วควรทำการเช็กสภาพยางรถยนต์ให้พร้อมควบคู่ไปด้วย เพื่อการขับขี่บนท้องถนนให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 

 

3 ทริคเช็กสภาพยางรถยนต์ให้พร้อม

1. เช็กอายุยางรถยนต์ 

โดยทั่วไปยางรถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณไม่ควรเกิน 2 ปี หรือตามระยะทางประมาณ 50,000 กิโลเมตร และนอกจากนี้ควรทำการสลับเปลี่ยนยางรถยนต์ที่ระยะทาง 10,000 กิโลเมตรด้วย

2. เช็กสภาพยางรถยนต์

ก่อนออกเดินทางสังเกตยางรถยนต์ทุกเส้น สภาพยางรถยนต์จะต้องไม่แข็งจนเกินไป ดอกยางจะต้องไม่สึกหรือมีความลึกไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร หากพบว่าดอกยางมีความลึกหรือสึกให้ทำการเปลี่ยนทันที เพราะอาจทำให้เสียการทรงตัวได้ ไม่มีการยึดเกาะถนน และยังลดประสิทธิภาพในการเบรกได้อีกด้วย และอย่าลืมเช็กยางอะไหล่ด้วยว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดจะได้มีเปลี่ยนพร้อมใช้ได้เลย

3. เช็กลมยางอยู่เสมอ

ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยรถยนต์ขนาดกลางส่วนใหญ่เติมลมอยู่ในระดับ 30-35 PSI หรือหากต้องเดินทางไกลก็ควรเพิ่มลมยางเข้าไปอีกประมาณ 2-3 PSI ปรับให้พอเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร จะได้ช่วยหน้ายางที่สัมผัสกับผิวถนนได้อย่างสม่ำเสมอ ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย

 

การเช็กลมยาง เช็กความพร้อมก่อนออกเดินทางทุกครั้งเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพราะหากละเลยในการดูแล อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้นะ เลือกเติมลมยางที่เหมาะกับรถยนต์แล้ว อย่าลืมเลือกซื้อประกันรถยนต์ให้ตอบโจทย์คุณด้วย TIPINSURE สามารถเลือกแผนความคุ้มครองให้ตรงตามความต้องการมากที่สุด เปรียบเทียบราคาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736 พร้อมคุ้มครองคุณตลอด 24 ชั่วโมง

 

#Tag: