6 วิธีแก้เมารถ เดินทางปลอดภัยไม่ทรมาน จะไกลแค่ไหนก็ไม่หวั่น
26 มิถุนายน 2024
ผู้ชม: 719 คน

รวม 6 วิธีแก้เมารถ เดินทางไกลก็ไม่หวั่น

การเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับบ้านต่างจังหวัด เป็นช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย แต่สำหรับใครหลายคนที่มีอาการเมารถอยู่เป็นประจำ ก็อาจจะกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความทรมานได้ เพราะต้องเผชิญกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน และหน้ามืด ทำให้ไม่สามารถสนุกและเพลิดเพลินไปกับการเดินทางได้อย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น อาการเมารถยังอาจลุกลามไปถึงคนรอบข้าง ทำให้บรรยากาศการเดินทางที่ควรจะมีความสุขเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ กลับกลายเป็นความเครียดและความกังวลแทน 

 

อาการเมารถ เป็นยังไง

อาการเมารถ (Motion sickness) คือภาวะที่เกิดจากความไม่สอดคล้องกันของระบบประสาทสมองส่วนกลาง โดยสมองได้รับข้อมูลที่ขัดแย้งกันจากการมองเห็น การทรงตัว และการรับรู้การเคลื่อนไหว ก่อให้เกิดอาการต่างๆ เช่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น เหงื่อออก ซึ่งทำให้รู้สึกไม่สบายตัวมากๆ

อาการเมารถสามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเดินทางด้วยพาหนะใด ทั้งรถยนต์ รถทัวร์ รถไฟ เรือ หรือเครื่องบิน ซึ่งอาจรุนแรงมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละคน หลายคนที่มีประสบการณ์เมารถ คงไม่อยากให้อาการนี้มาทำลายความสุขระหว่างการท่องเที่ยวหรือทริปกลับบ้าน แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะ TIPINSURE มี 6 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหาเมารถ ให้คุณเดินทางได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องทนทรมานกับอาการวิงเวียนหัวหรืออยากอาเจียนตลอดทาง มาดูกันเลยว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้าง

 

แนะนำ 6 วิธีแก้เมารถ เห็นผล ทำตามได้ง่าย ๆ 

มาดู 6 วิธีแก้เมารถ ที่จะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างสบายใจ ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล ก็ไม่ต้องหวั่นกับอาการเมารถอีกต่อไป 

1. พยายามนั่งเบาะหน้า

การเลือกนั่งตำแหน่งในรถก็มีผลต่ออาการเมารถเช่นกัน โดยเบาะนั่งด้านหน้าถือเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่มีอาการเมารถ เนื่องจากการได้มองเห็นถนนและทิวทัศน์ด้านหน้าตรงๆ จะช่วยลดความรู้สึกเวียนหัว เพราะสมองจะได้รับข้อมูลการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกัน แตกต่างจากการนั่งเบาะหลังที่มีแนวโน้มจะมองเห็นวิวข้างทางและด้านข้างมากกว่า

นอกจากนี้การนั่งเบาะหน้ายังได้รับอากาศถ่ายเทจากด้านหน้ารถเต็มๆ และบางครั้งการได้คุยกับคนขับ ก็จะช่วยให้การเดินทางสนุกสนานและช่วยลดความกังวลใจลงได้ เรียกได้ว่าเป็นตำแหน่งที่ช่วยกระตุ้นให้สมองตื่นตัว จึงลดอาการมึนงงและคลื่นไส้ได้ดีกว่านั่งหลัง ดังนั้นถ้ามีโอกาส ลองขอคนขับเปลี่ยนมานั่งเบาะหน้าดู เผื่ออาการเมารถจะทุเลาลงได้บ้าง

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพโดยทั่วไป แต่ยิ่งมีความจำเป็นมากขึ้นหากต้องนั่งรถเป็นเวลานาน เพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำจะส่งผลให้ปวดศีรษะ มึนงง อ่อนเพลีย ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดหรือทำให้อาการเมารถแย่ลงได้ ดังนั้นการดื่มน้ำสะอาดปริมาณมากๆ จะช่วยไม่ให้ร่างกายขาดน้ำนั่นเอง 

นอกจากนี้การจิบน้ำเรื่อยๆ ยังเป็นการบังคับให้ต้องขยับตัวหรือเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง ซึ่งการนั่งอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ อาจส่งผลให้อาการเมารถมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ การได้ขยับร่างกายเบาๆ จะช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้ดี แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายขับน้ำออกมากขึ้น และกระตุ้นให้เกิดอาการเวียนหัวได้

3. งดเล่นสมาร์ตโฟนหรืออ่านหนังสือ

ใครหลายคนมักใช้เวลาบนรถด้วยการเล่นมือถือ ดูหนัง เล่นเกม หรืออ่านหนังสือ เพื่อแก้เบื่อ แต่กิจกรรมเหล่านี้กลับเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เมารถได้มากขึ้น เพราะการจ้องสมาร์ตโฟนหรือสิ่งพิมพ์ต่างๆ ในระยะใกล้เป็นเวลานาน ขณะที่ตัวเราเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว จะส่งผลให้สมองเกิดความสับสนระหว่างภาพที่เห็นกับความรู้สึกเคลื่อนไหวของร่างกาย นำมาซึ่งอาการวิงเวียนศีรษะและคลื่นไส้ได้

แทนที่จะเล่นมือถือตลอดทาง แนะนำให้ลองเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถด้วย เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์และปรับสายตากับวิวภายนอก หรือหลับตาพักสายตาเป็นช่วงๆ ก็จะช่วยลดอาการเมารถได้เช่นกัน

4. พกยาหม่อง ยาดม ยาอมติดไว้

ไม่ว่าจะหิ้วกระเป๋าใบเล็กหรือเป้ใบโต ก็อย่าลืมแอบยัดยาหม่องหรือยาดมใส่ไว้สักหลอด เพราะนอกจากจะช่วยปลุกเราให้ตื่นจากอาการมึนๆ แล้ว ยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเมารถได้อีกด้วย เพราะยาหม่องและยาดมส่วนใหญ่มีส่วนผสมของเมนทอล ซึ่งให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น ช่วยลดอาการปวดศีรษะ และคลื่นไส้ โดยให้ทาบริเวณขมับและหลังใบหูเป็นระยะๆ หรือจะดมเข้าไปก็ยังช่วยให้รู้สึกโล่งจมูก หายใจได้สะดวกขึ้น

นอกจากนี้ยาอมบางชนิดที่ผสมสารสกัดจากขิง สะระแหน่ และสารสกัดที่ช่วยแก้ร้อนใน จะช่วยคลายอาการคลื่นไส้ได้บ้าง หากใครกลัวเมารถจริงๆ แนะนำให้ลองหาติดกระเป๋ากันไว้ก่อน

5. เตรียมผลไม้รสเปรี้ยวให้พร้อม

ใครจะเชื่อว่าผลไม้รสเปรี้ยวอย่าง มะนาว ส้ม มะขามป้อม จะช่วยลดอาการเมารถได้ แต่นี่เป็นอีกวิธีธรรมชาติที่หลายคนยืนยันว่าได้ผลจริง เพราะรสชาติเปรี้ยวจี๊ดของผลไม้ตระกูลส้ม จะไปกระตุ้นให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น โดยกรดที่มีในน้ำผลไม้จะช่วยขับเอาของเสียที่ตกค้างในร่างกายออกมา 

ส่งผลให้ลดอาการคลื่นไส้ และอยากอาเจียนลงได้ ส่วนกลิ่นของผิวผลไม้ ยังมีผลทำให้รู้สึกสดชื่น ตื่นตัว ไม่ง่วงซึมระหว่างการเดินทางอีกด้วย ดังนั้นก่อนออกเดินทาง อย่าลืมเตรียมผลไม้รสเปรี้ยวหรือผลไม้แช่อิ่มติดรถไว้ให้พร้อม เผื่อหิวหรือเริ่มมีอาการจะได้หยิบมาทานให้ชุ่มคอ ช่วยบรรเทาอาการแน่นท้องและอยากอาเจียนได้

6. ยาแก้เมารถช่วยได้แน่นอน

หากอาการเมารถรุนแรงจนใช้ทุกวิธีแล้วไม่ได้ผล การพึ่งยาแก้เมารถก็เป็นทางออกสุดท้ายที่ได้ผลชะงัด ยาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีฤทธิ์ของสารต้านฮิสทามีน (Antihistamines) ที่ออกฤทธิ์ระงับการหลั่งของระบบประสาท ทำให้สมองไม่สับสนและลดอาการวิงเวียนศีรษะได้ รวมถึงสารแก้คลื่นไส้อาเจียนบางอย่าง ที่จะทำให้รู้สึกสบายท้องมากขึ้น

ปัจจุบันหาซื้อยาแก้เมารถได้ทั่วไปตามร้านขายยาหรือห้างสรรพสินค้า ยี่ห้อที่นิยมใช้และหาได้ง่าย ได้แก่ Dramamine หรือ Dimenhydrinate ซึ่งเป็นยาแก้แพ้ชนิดหนึ่งนั่นเอง แต่มีคุณสมบัติลดการสั่งการของเส้นประสาทที่ควบคุมการทรงตัวและการเคลื่อนไหว จึงมักใช้เพื่อป้องกันและรักษาอาการเมารถโดยเฉพาะ

 

สรุปบทความ

อาการเมารถเป็นปัญหาสุขภาพที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญระหว่างการเดินทาง ทำให้การขับรถท่องเที่ยวหรือกลับบ้านกลายเป็นความทรมานไปโดยปริยาย แต่เราสามารถป้องกันและบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ด้วย 6 วิธีแก้เมารถที่ได้แนะนำไปข้างต้น

อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม คือการเตรียมความพร้อมให้กับรถยนต์ก่อนการเดินทางด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเช็กสภาพรถให้พร้อมใช้งาน การเติมน้ำมันให้เพียงพอ รวมถึงการทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เผื่อกรณีฉุกเฉิน เพราะไม่มีใครคาดเดาได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การมีประกันที่คุ้มครองทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร จะช่วยให้ทริปนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น

#Tag: