รวม 8 โรคยอดฮิตที่มากับฝน ใครป่วยบ่อยต้องระวัง
21 สิงหาคม 2024
ผู้ชม: 58 คน

ป่วยบ่อยต้องระวัง กับ 8 โรคร้ายที่มาพร้อมกับหน้าฝน

ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย แต่ความชุ่มฉ่ำของสายฝน ก็มาพร้อมกับโรคภัยไข้เจ็บที่แฝงตัวมากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โรคที่มากับหน้าฝนหลายชนิดสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้อย่างรุนแรง ดังนั้น การรู้เท่าทันและเตรียมพร้อมรับมือจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้ ประกันทิพยประกันภัย จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 8 โรคยอดฮิตที่มักมาเยือนในช่วงหน้าฝน พร้อมทั้งวิธีป้องกันและดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคเหล่านี้กัน

 

รวมโรคที่มากับหน้าฝน

รู้จักกับ 8 โรคยอดฮิตที่มากับหน้าฝน เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตในช่วงฤดูฝนชุ่มฉ่ำนี้ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยกัน

1. โรคไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่เป็นหนึ่งในโรคหน้าฝนที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซาที่แพร่กระจายได้ง่ายในอากาศที่เย็นและชื้น ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสภาพอากาศในฤดูฝน เชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอยจากการไอ จาม หรือพูดคุยของผู้ติดเชื้อ 

อาการที่พบได้บ่อยคือ ไข้สูงเฉียบพลัน (มักสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส) ปวดเมื่อยตามร่างกายอย่างรุนแรง ไอแห้งๆ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดศีรษะ และอ่อนเพลียมาก บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย

การป้องกันทำได้โดยการรักษาสุขอนามัยที่ดี เช่น ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะหรือเมื่อมีอาการป่วย หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และที่สำคัญคือการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี ซึ่งควรฉีดก่อนเข้าสู่ฤดูฝนเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ทัน

2. โรคปอดอักเสบ

ปอดอักเสบเป็นภาวะที่เนื้อเยื่อปอดเกิดการอักเสบ ซึ่งมักเกิดตามหลังการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ในช่วงหน้าฝน ที่อากาศเย็นและชื้นสามารถกระตุ้นให้เชื้อก่อโรคเจริญเติบโตได้ดี และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจทำงานได้ไม่เต็มที่เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน

อาการที่พบได้คือ ไข้สูง ไอมีเสมหะ ซึ่งอาจมีสีเหลือง เขียว หรือมีเลือดปน หายใจลำบาก หายใจเร็ว เจ็บหน้าอกโดยเฉพาะเวลาหายใจเข้าลึกๆ หรือไอ อ่อนเพลียมาก และอาจมีอาการเบื่ออาหาร ในผู้สูงอายุอาจพบอาการสับสนร่วมด้วย

โรคนี้อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง การป้องกันทำได้โดยการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบตามคำแนะนำของแพทย์

3. โรคไข้เลือดออก

ไข้เลือดออกเป็นโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ ซึ่งมักแพร่ระบาดในช่วงหน้าฝนเนื่องจากมีแหล่งน้ำขังที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ยุงลายสามารถวางไข่ในน้ำนิ่งแม้เพียงเล็กน้อย เช่น ในจานรองกระถางต้นไม้ ยางรถยนต์เก่า หรือเศษภาชนะที่มีน้ำขัง

อาการของโรคนี้คือ ไข้สูงเฉียบพลัน (มักสูงกว่า 39 องศาเซลเซียส) ปวดกล้ามเนื้อและข้ออย่างรุนแรง ปวดศีรษะมาก โดยเฉพาะบริเวณขมับและหลังลูกตา อาจมีผื่นขึ้นตามตัว และในรายที่รุนแรงอาจมีภาวะช็อกจากการรั่วของพลาสมา ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต

การป้องกันทำได้โดยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น การปิดภาชนะเก็บน้ำให้มิดชิด การเปลี่ยนน้ำในแจกันหรือจานรองกระถางต้นไม้ทุกสัปดาห์ และการกำจัดขยะที่อาจขังน้ำได้ นอกจากนี้ ควรป้องกันตัวเองจากการถูกยุงกัดโดยการใช้ยากันยุง สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกาย และนอนในมุ้ง

4. โรคมาลาเรีย

แม้ว่าโรคมาลาเรียจะไม่พบบ่อยในเขตเมือง แต่ก็ยังเป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่ชนบทและป่าเขา โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนของประเทศไทย โรคนี้มียุงก้นปล่องเป็นพาหะ ซึ่งมักออกหากินในเวลากลางคืน

อาการที่พบคือ ไข้สูงเป็นระยะ โดยมักมีอาการไข้หนาวสั่นสลับกับมีเหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ในรายที่รุนแรงอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น ภาวะโลหิตจาง ไตวาย หรือมาลาเรียขึ้นสมอง

การป้องกันทำได้โดยการทายากันยุงเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน และหากจำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของมาลาเรีย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาป้องกันมาลาเรียก่อนเดินทาง

5. โรคตาแดง

โรคตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้บ่อยในหน้าฝน เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ง่ายในสภาพอากาศที่ชื้น และมักระบาดในชุมชนที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่น

อาการที่พบคือ ตาแดง คัน รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา มีขี้ตามาก และอาจมีน้ำตาไหล บางรายอาจมีอาการตาพร่ามัวหรือไวต่อแสงร่วมด้วย โรคนี้ติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสสิ่งของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า หมอน หรือการใช้มือสกปรกขยี้ตา

การป้องกันทำได้โดยการรักษาความสะอาดของมือและใบหน้า ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนสัมผัสบริเวณดวงตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา และไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเช็ดตัว หากมีอาการตาแดง ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

6. โรคฉี่หนู

โรคฉี่หนูหรือเลปโตสไปโรซิสเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยมักติดต่อผ่านการสัมผัสน้ำหรือดินที่ปนเปื้อนปัสสาวะของสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยเฉพาะหนู สุนัข วัว ควาย หรือสุกร ในช่วงหน้าฝนที่มีน้ำท่วมขัง โอกาสสัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้น

อาการที่พบคือ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงโดยเฉพาะบริเวณน่องและโคนขา ปวดศีรษะ ตาแดง และอาจมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง (ภาวะดีซ่าน) ในรายที่รุนแรงอาจเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน ตับอักเสบ หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้

การป้องกันทำได้โดยการหลีกเลี่ยงการลุยน้ำท่วมขังหรือสวมรองเท้าบูทเมื่อจำเป็นต้องลุยน้ำ ไม่แช่น้ำนานๆ โดยเฉพาะเมื่อมีบาดแผลตามร่างกาย รักษาความสะอาดในบ้านและบริเวณรอบบ้านเพื่อไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของหนู และล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสกับน้ำหรือดิน

7. โรคมือ เท้า ปาก

โรคมือ เท้า ปาก มักพบในเด็กเล็ก แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถติดเชื้อได้ โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่มเอนเทอโรไวรัส ซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายในสภาพอากาศชื้น และมักระบาดในช่วงฤดูฝน

อาการที่พบคือ มีไข้ เจ็บคอ มีแผลในปาก และมีตุ่มน้ำใสหรือผื่นแดงที่มือ เท้า และอาจพบที่ก้นด้วย ในเด็กเล็กอาจทำให้เบื่ออาหารและดื่มนมหรือน้ำน้อยลงเนื่องจากเจ็บปาก โรคนี้ติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสน้ำลาย น้ำมูก หรืออุจจาระของผู้ป่วย

การป้องกันทำได้โดยการรักษาสุขอนามัยที่ดี ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือพาเด็กเข้าห้องน้ำ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ทำความสะอาดของเล่นและพื้นผิวที่เด็กสัมผัสบ่อยๆ และหากพบว่าเด็กมีอาการป่วย ควรให้หยุดเรียนและพักรักษาตัวที่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

8. โรคท้องร่วง บิด อาหารเป็นพิษ

โรคท้องร่วง บิด อาหารเป็นพิษ โรคในกลุ่มนี้มักเกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค ซึ่งพบได้บ่อยในช่วงหน้าฝนเนื่องจากอาหารเน่าเสียได้ง่ายในสภาพอากาศที่ชื้น และน้ำอาจปนเปื้อนเชื้อโรคจากน้ำท่วมขัง

อาการที่พบคือ ท้องเสีย ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ อาเจียน ปวดท้อง และอาจมีไข้ร่วมด้วย ในรายที่รุนแรงอาจเกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งอันตรายมากโดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ

การป้องกันทำได้โดยการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงอาหารที่วางทิ้งไว้นาน โดยเฉพาะอาหารที่มีเนื้อสัตว์หรือไข่เป็นส่วนประกอบ ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำต้มสุก ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ และรักษาความสะอาดของห้องครัวและอุปกรณ์ประกอบอาหาร

 

สรุปบทความ

โรคที่มากับหน้าฝนทั้ง 8 ชนิดที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพและรักษาสุขอนามัยที่ดี นอกเหนือจากการป้องกันตัวเองแล้ว การมีประกันสุขภาพเหมาจ่ายก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ชาญฉลาดในการเตรียมพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพจะช่วยครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลจากโรคต่างๆ รวมถึงโรคที่มักพบในหน้าฝนนี้ ทำให้คุณสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพได้อย่างทันท่วงทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ด้วยการผสมผสานระหว่างการดูแลสุขภาพที่ดีและการมีประกันสุขภาพที่เหมาะสม จะทำให้คุณและคนที่คุณรักสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข สุขภาพแข็งแรง และมีความอุ่นใจตลอดฤดูฝนนี้และตลอดไป

#Tag: