ปวดท้องเมนส์ อาการที่สาว ๆ ไม่ควรละเลย
ปวดท้องเมนส์ เป็นอาการที่ผู้หญิงหลายคนมักละเลยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่จริง ๆ แล้วอาจเสี่ยงเป็นโรคร้ายโดยไม่รู้ตัวหากเกิดอาการปวดท้องเมนส์มากกว่าปกติ อย่านิ่งนอนใจ TIPINSURE ได้ลองรวบรวมเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุของการปวดท้องเมนส์ รวมถึงประเภทของอาการปวด และความเสี่ยงในโรคอื่น ๆ
สาเหตุของการปวดท้องเมนส์
สาเหตุของการปวดท้องเมนส์ คือ โพรสตาแกลนดิน (prostaglandin) สารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนก่อตัวขึ้นบนเยื่อบุโพรงมดลูกในช่วงที่มีประจำเดือน โดยสารนี้จะส่งผลให้กล้ามเนื้อบีบตัว และมีอาการหดเกร็งตามมา จนเกิดเป็นอาการเจ็บปวด ยิ่งถ้าร่างกายหลั่งสารนี้ออกมาเป็นปริมาณมาก อาจทำให้อาการปวดท้องเมนส์รุนแรงมากขึ้นไปอีก
ประเภทของอาการปวดท้องเมนส์
ในเบื้องต้นประเภทของอาการปวดท้องเมนส์ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ ปวดท้องเมนส์ปฐมภูมิ และปวดท้องเมนส์ทุติยภูมิ โดยทั้งสองมีความแตกต่างมาจากสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดดังนี้
1. ปวดท้องเมนส์ปฐมภูมิ
อาการปวดท้องเมนส์ที่พบได้ตามปกติ เพราะร่างกายหลั่งสารโพรสตาแกลนดินมากเกินไป ทำให้เกิดอาการปวดเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
2. ปวดท้องเมนส์ทุติยภูมิ
ปวดท้องเมนส์ทุติยภูมิ เป็นอาการปวดที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของมดลูก หรืออวัยวะสืบพันธุ์ส่วนอื่นร่วมด้วย ซึ่งอาการปวดแบบทุติยภูมิมักจะทำให้รู้สึกปวดมากกว่าปกติ โดยมีอาการเบื้องต้นดังนี้
- ปวดรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนได้รับการฉีดยาแก้ปวด
- มีประจำเดือนมามากเกินกว่าปกติ
- มีความผิดปกติในอุ้งเชิงกราน
- รักษาด้วยยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs หรือยาเม็ดคุมกำเนิดแล้วไม่มีการตอบสนอง
- มีอาการปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
- มีตกขาวผิดปกติ
ปวดท้องเมนส์ เสี่ยงเป็นอะไรบ้าง
ปวดท้องเมนส์มาก ๆ อาจเสี่ยงเป็นได้หลายอย่าง เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, เยื่อบุมดลูกเจริญภายในกล้ามเนื้อมดลูก, เนื้องอกมดลูก, ภาวะปากมดลูกตีบ และภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ โดยสาเหตุที่กล่าวมามีรายละเอียดดังนี้
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่: แม้จะเจริญผิดที่แต่ก็ยังทำหน้าที่สร้างประจำเดือนตามปกติ ทำให้มีเลือดอยู่ในอุ้งเชิงกรานบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรงได้
- เยื่อบุมดลูกเจริญภายในกล้ามเนื้อมดลูก: ส่งผลให้เกิดอาการปวดมากกว่าปกติ และอาจมีประจำเดือนมาก และมียาวนานกว่าปกติ
- เนื้องอกมดลูก: หากมีขนาดใหญ่อาจทำให้มีประจำเดือนมาก ไปจนถึงการมีประจำเดือนแบบกะปริบกะปรอยต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ และยังอาจทำให้มีอาการปวดประจำเดือน หรือมีอาการปวดหลังบริเวณด้านล่างแบบเรื้อรังได้เช่นกัน
- ภาวะปากมดลูกตีบ: หรือบางกรณีที่รูปิดสนิท ทำให้เกิดอาการเลือดคั่งภายใน อันเป็นผลให้มีอาการปวดท้องมาก
- ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ: เกิดจากการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ หากไม่รักษาให้หาย จะทำให้มีอาการปวดเรื้อรังและปวดท้องเมนส์ระหว่างมีประจำเดือนได้
ปวดท้องเมนส์แบบไหนควรพบแพทย์
อาการปวดท้องเมนส์ที่ควรไปพบแพทย์ คือ การรับประทานยาแล้วยังไม่หายปวด, มีอาการปวดที่มากขึ้นอย่างรู้สึกได้ชัดเจน, อายุมากกว่า 25 ปี แต่รู้สึกถึงอาการปวดที่รุนแรงได้เป็นครั้งแรก, มีไข้ขณะที่ปวดท้องเมนส์, มีประจำเดือนออกมามากกว่าปกติ, รู้สึกปวดท้องน้อยแม้ไม่มีประจำเดือน และมีอาการติดเชื้อที่สังเกตได้ง่าย เป็นต้น
สรุปบทความ
หากมีอาการปวดท้องเมนส์แตกต่างจากปกติ และเข้าข่ายแบบที่ควรพบแพทย์ ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยไว้ ให้รีบเข้าพบแพทย์ในโรงพยาบาลที่ใกล้เคียง เพื่อให้แพทย์ช่วยวินิจฉัยและหาวิธีรักษาได้ก่อนที่จะกลายเป็นโรคร้าย ดังนั้นคุณผู้หญิงที่ยังไม่มีอาการปวดท้องเมนส์รุนแรง ก็ไม่ควรชะล่าใจ หมั่นดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีอย่างสม่ำเสมอ หรือจะเลือกทำประกันสุขภาพไว้เสริมความอุ่นใจ ว่าถ้าวันหนึ่งรู้สึกปวดท้องเมนส์มากกว่าปกติขึ้นมา จะได้มีตัวช่วยดูแลคุ้มครองอย่างครบวงจร ซึ่งสามารถเข้ามาขอคำปรึกษากับ TIPINSURE ได้ที่เบอร์ 1736 หรือเช็กราคาได้ที่หน้าเว็บไซต์ประกันสุขภาพได้โดยตรง