รู้จักโรคผิวหนังในสุนัข ต้นเหตุที่ทำให้เจ้าตูบคันไม่หยุด!
หากคุณเป็นทาสหมาตัวจริง คงเคยสังเกตเห็นเจ้าตูบของคุณเกาตัวไม่หยุดจนน่าเป็นห่วง นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคผิวหนังสุนัข ปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในสุนัขทุกสายพันธุ์ บทความนี้ TIPINSURE จะพาคุณไปทำความรู้จักกับโรคผิวหนังสุนัข สาเหตุ อาการ และวิธีดูแลรักษาเบื้องต้น เพื่อให้คุณสามารถดูแลเจ้าตูบสุดที่รักได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที
โรคผิวหนังสุนัขที่พบได้บ่อย
โรคผิวหนังสุนัขเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในสุนัขทุกสายพันธุ์ ทุกเพศ และทุกวัย สาเหตุของโรคผิวหนังสุนัขมีหลากหลาย ตั้งแต่การติดเชื้อ ปรสิต ภูมิแพ้ ไปจนถึงความผิดปกติทางพันธุกรรม การรู้จักสาเหตุและอาการของโรคผิวหนังสุนัขจะช่วยให้คุณสามารถสังเกตอาการผิดปกติและพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ได้ทันก่อนอาการลุกลามรุนแรง
5 โรคผิวหนังสุนัขหลักๆ ที่พบได้บ่อย
โรคผิวหนังสุนัขหลักๆ ที่พบได้บ่อย แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มโรค ดังนี้
กลุ่มโรคติดเชื้อปรสิตภายนอก
- โรคขี้เรื้อน (Mange) โรคขี้เรื้อนเกิดจากไรขนาดเล็กที่อาศัยอยู่บนผิวหนังหรือในรูขุมขนของสุนัข ทำให้เจ้าตูบมีอาการ คันมาก ขนร่วง ผิวหนังแดง เป็นสะเก็ด โดยจะแบ่งเป็น 2 ชนิดหลัก
- ขี้เรื้อนเดโมเดกซ์ (Demodectic mange) : เกิดจากไรเดโมเดกซ์ มักพบในลูกสุนัขหรือสุนัขที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ขี้เรื้อนซาร์คอปติก (Sarcoptic mange) : เกิดจากไรซาร์คอปเตส สามารถติดต่อสู่คนได้
- โรคเห็บ (Tick infestation) เกิดจากเห็บซึ่งเป็นปรสิตภายนอกที่ดูดเลือดสุนัข นอกจากจะทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองผิวหนังแล้ว ยังอาจเป็นพาหะนำโรคร้ายแรงอื่นๆ มาสู่สุนัขได้
- โรคหมัด (Flea infestation) หมัดเป็นปรสิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่บนตัวสุนัข ดูดเลือด และวางไข่ การระบาดของหมัดสามารถทำให้เกิดอาการแพ้และผิวหนังอักเสบรุนแรงได้ ให้สังเกตอาการคัน โดยเฉพาะบริเวณโคนหาง สะโพก และท้อง และพบหมัดหรือมูลหมัดบนตัวสุนัข
กลุ่มโรคติดเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อรา
- โรคผิวหนังอักเสบจากแบคทีเรีย (Bacterial dermatitis) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง มักพบในสุนัขที่มีบาดแผล หรือมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โดยจะมีอาการ ผิวหนังแดง เป็นตุ่มหนอง มีสะเก็ด ขนร่วง และมีกลิ่นเหม็น
- โรคผิวหนังอักเสบจากยีสต์ (Yeast dermatitis) เกิดจากการเจริญเติบโตมากเกินไปของเชื้อยีสต์บนผิวหนัง มักพบในสุนัขที่มีผิวหนังชื้นแฉะ หรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยจะมีอาการ ผิวหนังแดง คัน มีกลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นเหม็นอับ ผิวหนังหนาตัวและมีสีเข้มขึ้น
- โรคกลาก (Ringworm) แม้จะมีชื่อว่า "หนอน" แต่จริงๆ แล้วเกิดจากการติดเชื้อราที่ผิวหนัง สามารถติดต่อสู่คนและสัตว์อื่นได้ โดยจะมีอาการผิวหนังเป็นวงกลมแดง ขนร่วงเป็นหย่อมๆ อาจมีสะเก็ด
กลุ่มโรคภูมิแพ้
- โรคภูมิแพ้อาหาร (Food allergy) เกิดจากการแพ้โปรตีนในอาหารที่สุนัขรับประทาน เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว ไข่ หรือธัญพืชบางชนิด ทำให้มีอาการคันตามผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณใบหู เท้า ก้น และท้อง อาจมีอาการทางระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย
- โรคภูมิแพ้สิ่งแวดล้อม (Atopic dermatitis) เกิดจากการแพ้สารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม เช่น ละอองเกสร ไรฝุ่น หรือเชื้อรา ทำให้มีอาการคันตามผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า เท้า ใต้ท้อง และรักแร้ อาการมักแย่ลงตามฤดูกาล
- โรคภูมิแพ้จากการสัมผัส (Contact allergy) เกิดจากการสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น น้ำยาทำความสะอาด พลาสติก หรือโลหะบางชนิด ทำให้มีอาการผิวหนังแดง คัน และอักเสบเฉพาะบริเวณที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้
กลุ่มโรคความผิดปกติของฮอร์โมน
- โรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย (Hypothyroidism) เกิดจากการที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบต่อผิวหนังและขน และมีอาการขนร่วง ผิวหนังแห้ง หนา และมีสีเข้มขึ้น มักพบร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น อ้วนขึ้น เฉื่อยชา
- โรคคุชชิ่ง (Cushing's disease) เกิดจากการมีฮอร์โมนคอร์ติซอลในร่างกายมากเกินไป ส่งผลกระทบต่อผิวหนังและระบบอื่นๆ ในร่างกาย และมีอาการผิวหนังบาง เปราะ ขนร่วง ผิวหนังคล้ำ อาจพบรอยช้ำง่าย ท้องป่อง กินน้ำและปัสสาวะบ่อย
กลุ่มโรคอื่นๆ
- โรคผิวหนังอักเสบจากการเลีย (Lick granuloma) เกิดจากการที่สุนัขเลียหรือกัดผิวหนังบริเวณเดิมซ้ำๆ จนเกิดแผลและการอักเสบ มักเกิดจากความเครียดหรือความวิตกกังวล มักมีอาการแผลเปิดบริเวณขาหน้าหรือขาหลัง ผิวหนังหนาตัวและมีสีเข้มขึ้น
- โรคผิวหนังอักเสบจากการกัด (Flea allergy dermatitis) เกิดจากการแพ้น้ำลายหมัด แม้จะมีหมัดเพียงตัวเดียวก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรงได้ สังเกตอาการคันมาก โดยเฉพาะบริเวณโคนหาง สะโพก และท้อง ผิวหนังแดง เป็นตุ่ม และอาจมีแผลจากการเกา
- โรคผิวหนังอักเสบจากการอุดตันของต่อมไขมัน (Sebaceous adenitis) เกิดจากการอักเสบและการทำลายของต่อมไขมันในผิวหนัง พบได้บ่อยในสุนัขบางสายพันธุ์ เช่น พุดเดิล อัฟกัน ฮาวด์ ทำให้มีอาการขนร่วง ผิวหนังแห้ง เป็นสะเก็ด มักเริ่มจากบริเวณหัวและหู แล้วลามไปทั่วตัว
สัญญาณหรือรอยโรคที่สังเกตได้
เมื่อสุนัขของคุณเป็นโรคผิวหนัง คุณอาจสังเกตเห็นสัญญาณหรือรอยโรคต่อไปนี้
- อาการคัน: สุนัขจะเกาตัว กัด หรือเลียผิวหนังบ่อยๆ
- ขนร่วง: อาจพบขนร่วงเป็นหย่อมๆ หรือทั่วทั้งตัว
- ผิวหนังแดง: ผิวหนังอาจมีสีแดงหรืออักเสบ โดยเฉพาะในบริเวณที่สุนัขเกาบ่อยๆ
- ผื่น: อาจพบผื่นแดง ตุ่มนูน หรือตุ่มหนองบนผิวหนัง
- สะเก็ด: อาจพบสะเก็ดแห้งหรือมันบนผิวหนัง
- กลิ่นตัว: สุนัขอาจมีกลิ่นตัวผิดปกติ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นโรคผิวหนังจากการติดเชื้อ
- แผลเปิด: ในบางกรณี อาจพบแผลเปิดจากการที่สุนัขเกาหรือกัดตัวเอง
- การเปลี่ยนแปลงของสีผิว: ผิวหนังอาจมีสีเข้มขึ้นหรือจางลงในบางบริเวณ
- ผิวหนังหนาตัว: ในบางโรค เช่น โรคภูมิแพ้เรื้อรัง ผิวหนังอาจหนาตัวขึ้น
หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ในสุนัขของคุณ ควรพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
ทำอย่างไรเมื่อหมาเป็นโรคผิวหนัง
เมื่อคุณสงสัยว่าสุนัขของคุณอาจเป็นโรคผิวหนัง ควรปฏิบัติดังนี้
- พาไปพบสัตวแพทย์: การวินิจฉัยที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาโรคผิวหนังสุนัข สัตวแพทย์จะตรวจร่างกาย และอาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การขูดผิวหนัง การเพาะเชื้อ หรือการตรวจเลือด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
- ทำความสะอาดผิวหนังและขน: อาบน้ำสุนัขด้วยแชมพูที่เหมาะสมตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ การทำความสะอาดจะช่วยลดการระคายเคืองและการติดเชื้อ
- ให้ยาตามที่สัตวแพทย์สั่ง: อาจเป็นยาทาภายนอก ยากิน หรือยาฉีด ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคผิวหนัง
- ป้องกันไม่ให้สุนัขเกาหรือกัดผิวหนัง: อาจใช้ปลอกคอกันเลีย หรือเสื้อป้องกัน เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น
- ปรับเปลี่ยนอาหาร: ในกรณีที่สงสัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้อาหาร สัตวแพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนสูตรอาหารหรือใช้อาหารเฉพาะทาง
- กำจัดปรสิตภายนอก: ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดและเห็บตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
- ลดความเครียด: ความเครียดอาจทำให้อาการของโรคผิวหนังแย่ลง พยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายให้กับสุนัข
- ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด: สังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาการ และแจ้งสัตวแพทย์หากอาการแย่ลงหรือไม่ดีขึ้น
- ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม: ซักทำความสะอาดที่นอน ผ้าห่ม และของเล่นของสุนัขเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคหรือปรสิต
- พิจารณาทำประกันสัตว์เลี้ยง: การทำประกันสุขภาพสำหรับสุนัขอาจช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
สรุปบทความ
โรคผิวหนังสุนัขเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยและอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเจ้าตูบอย่างมาก การรู้จักสาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลรักษาเบื้องต้น จะช่วยให้คุณสามารถช่วยเหลือสุนัขของคุณได้อย่างทันท่วงทีจากการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องจากสัตวแพทย์
นอกจากนี้ การทำประกันสัตว์เลี้ยง นับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเจ้าของสุนัขที่ต้องการความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคผิวหนังและโรคอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นการดูแลสุขภาพผิวหนังของสุนัขอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการสังเกตอาการผิดปกติและพาไปพบสัตวแพทย์โดยทันที จะช่วยให้เจ้าตูบของคุณมีสุขภาพผิวที่ดีและมีความสุขไปกับคุณได้อย่างยาวนาน